ความเอาใจใส่เป็นสิ่งสำคัญเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์แบบไหน ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อนฝูง สัตว์เลี้ยงตัวโปรด ต้นไม้ หรือแม้กระทั่งคนรัก หากไม่มีใคร “เอาใจใส่กัน” ความรักนั้นคงไม่ใช่ความรักที่อบอุ่น ความสัมพันธ์จะแข็งแรงได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครเห็นความสำคัญของกันและกัน หรือถ้าจะยอมปล่อยให้ความรักถูกทอดทิ้งอยู่อย่างนั้น โดยไม่ลงมือทำอะไรเลย
คนรักกันมีความต้องการพื้นฐานเพียงไม่กี่อย่าง แต่คนเรามักหลงลืมหรือมองข้าม ความต้องการของคนใกล้ตัวอยู่เสมอ กว่าจะสำนึกได้ หรือกว่าจะรู้สึกว่าใครสำคัญ บางทีคนคนนั้นอาจเดินออกไปจากชีวิตเราแล้วก็ได้ หากเราเป็นคนหนึ่งที่กำลังถูกคนรักละเลยหรือมองข้าม เราต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้ความรักมันดีขึ้น
การเอาใจใส่กันเป็นเรื่องที่ต้องร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย คนหนึ่งคน?.ทำให้ความรักเป็นรักไม่ได้ รักอยู่ฝ่ายเดียว เอาใจใส่อยู่ฝ่ายเดียว มีค่าเท่ากับแอบรักลมๆ แล้งๆ ถ้ามีแค่เราที่เห็นคุณค่าอยู่ฝ่ายเดียวลำพัง ความสุขคงเกิดไม่ได้
บางคนคบกันมานานหลายปี เป็นไปได้ที่จะเกิดอารมณ์เบื่อหน่าย กับอะไรที่ดำเนินไปเหมือนเดิม ใช้ชีวิตในตารางเดิมๆ กินข้าวกับคนเดิมๆ ดูหนังแนวเดิมๆ ไปรับไปส่งเวลาเดิมจนเกิดเป็นความรู้สึกที่ชาชิน และบางครั้งก็เบื่อจนไม่อยากทำอะไร “เบื่อหน่าย” สำหรับคนบางคน ไม่ได้แปลว่า “หมดรัก” คือยังรัก?แต่ไม่อยากทำอะไรมากมายเหมือนเดิมอีก เพราะคิดว่าความรักดีอยู่แล้ว
รักกันใหม่ๆ ก็เหมือนเราขับรถใหม่ วันแรกที่ได้รถคันโปรดมาครอบครอง ใครๆ ก็มักตื่นเต้น นอนก็ไม่หลับเพราะใจจ่ออยู่กับรถใหม่ ทันทีที่ได้รถคันนั้นมา ก็ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี นำรถไปล้างได้ทุกอาทิตย์ ก่อนออกต่างจังหวัดก็นำรถเข้าเช็กอุปกรณ์ความปลอดภัยทุกครั้ง “เพื่อความมั่นใจ” ว่าทุกอย่างไม่มีอะไรชำรุดหรือเสียหาย เมื่อเรามั่นใจในคุณภาพของรถคันโปรด ไม่ว่าเราขับไปไหนก็มีแต่ความสบายใจ
ความรัก?ก็เช่นกัน คบกันใหม่ๆ คนสองคนผลัดกันเอาใจใส่ดูแลกันและกันเป็นอย่างดี ยิ่งรักก็ยิ่ง “มั่นใจ” ในกันและกัน แต่เวลาก็มีผลกับความรักได้เสมอ เราอาจคิดว่าเมื่อเราผ่านเวลา ไปนานๆ ระยะเวลาที่ยาวนั้นจะช่วยผูกมัด ความรักของสองเราไว้ได้ รักกันนานแล้ว จะยังต้องการอะไร (บางคนคิดแบบนี้) โดยลืมไปว่าความรักเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ ได้
รัก?ไม่ใช่ต้นไม้สวยๆ ที่เราซื้อมาจากร้านขายต้นไม้ เพื่อมาวางตกแต่งหน้าบ้าน หากเราคิดว่าต้นไม้นั้นสวยอยู่แล้ว ไม่ดูแล ไม่รดน้ำพรวนดิน วันหนึ่งความสวยงามนั้นก็จะหายไป กลายเป็นต้นไม้เหี่ยวๆ ที่วันหนึ่งก็จะถูกเจ้าของโยนทิ้ง เราจะปล่อยให้ความรักเป็นเหมือนต้นไม้เหี่ยวๆ ต้นนั้นหรือเปล่า
ลงมือทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้ความรักกลับมาสดใสเหมือนเดิมตั้งแต่ตอนนนี้ดีกว่า ถึงต้นไม้ที่เราขาดการดูแลเอาใจใส่ จะเริ่มเหี่ยวขาดชีวิตชีวาไปหลายวันแล้ว แต่หากเจ้าของหันมาใส่ใจด้วยการเติมน้ำลงไป ใส่ปุ๋ย และดูแลอย่างดี ต้นไม้ก็มีโอกาสมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ใหม่ ไม่แน่ว่าหากเราดูแลดีๆ มันอาจเติบโตแผ่กิ่งก้านใบไม้มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“ใส่ใจคนที่เรารักให้ดีที่สุด” เมื่อยังมีโอกาสทำดีต่อกัน ถ้าวันหนึ่งเขาไม่ได้อยู่กับเราแล้ว ต่อให้เราอยากทำเพื่อเขามากแค่ไหน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเหลือแค่ตัวเราที่ต้องอยู่โดดเดี่ยวลำพัง
ความรักเป็นเหมือนสิ่งมีขีวิต เราปฏิบัติต่อความรักอย่างไร เรามักจะได้ผลเช่นนั้นตอบแทนกลับมาเสมอ ทำดีต่อกัน ความรักก็มีเรื่องดีๆ ให้จดจำ ทำไม่ดีต่อกันวันๆ ก็คงมีแต่เรื่องให้ต้องทะเลาะเบาะแว้ง ทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือร้าย คนสองคนเท่านั้นที่จะนำพาให้มันเป็นไปเริ่มต้น “ใส่ใจ” กันและกันตอนนี้ยังไม่สายเกินไป “ใส่ใจ” หมายถึงการมีน้ำใจให้กัน ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคนสำคัญของเรา เราไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นเรื่องเล็กๆ ในสายตาคนอื่น มักเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ในสายตาคนทื่เรารักเสมอ บางคนไม่ได้ต้องการให้ใส่ใจอะไรมากมาย แต่ความหมายของไม่ได้ต้องการมาก ไม่ใช่?ไม่ต้องการเลย
ลองเริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อย แล้วทำให้มันเป็นเรื่องเคยชิน ไถ่ถามแล้วแสดงความเป็นห่วงต่อกันบ้าง ไม่ใช่เห็นว่าสบายดีก็เลยผ่านไป แม้คนรักของเราจะเก่งขนาดไหน เขาก็มีความอ่อนแอซ่อนอยู่ในใจอยู่ดี ให้กำลังใจกันและกันในวันที่อีกคนเจ็บป่วย หรือเจอเรื่องร้ายๆ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ศัตรูของเรา มันคือบททดสอบความรักของคนสองคนต่างหาก ให้นึกถึงวันแรกที่รักกันให้มากๆ ว่ากว่าจะได้เป็นเจ้าของหัวใจกัน ต้องเจอเรื่องยุ่งยากแค่ไหน ต้องผ่านด่านของใครต่อใครมากมาย เมื่อได้รักมาครอบครอง หมายถึงเรามีหน้าที่ที่ต้องใช้ความ “เต็มใจและยินดี” ที่จะดูแลกัน
ความรัก?รักอิสระมากกว่าที่เราคิด แต่รักก็ต้องการคนดูแล วันนี้เราเอาใจใส่ดูแลความรักของตัวเองให้ดีพอแล้วหรือยัง คำถามนี้?น่าคิดต่อนะ