หลังจากหมดช่วงข้าวใหม่ปลามัน คู่แต่งงานส่วนใหญ่ มักจะให้ความสนใจ ในเรื่องการสร้างครอบครัวเป็นหลัก ยิ่งถ้าอยู่ในฐานะคุณแม่บ้านด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งแล้วใหญ่ค่ะ เพราะต้องรับบทหนักทั้งงานราษฎร์งานหลวง สุดท้ายก็ไม่เหลือ เวลาส่วนตัวให้ตัวเองได้หายใจหายคอ หรือเอาอกเอาใจคนรักอย่างที่เคยทำ ของแบบเนี้ยนะยิ่งนานก็ยิ่งชิน ยิ่งชินก็ทำให้เบื่อ และนี่แหละคือ ที่มาของโรคเบื่อ ที่จะทำให้คุณ กลายเป็นแม่น้ำพริกถ้วยเก่า ของคุณสามีที่ยังรัก และชอบความตื่นเต้นในชีวิตอยู่ไปเสียทีเดียว
อย่าทำลายรักของคุณ ด้วยคำว่า เบื่อ
1. ความเชื่อใจกัน
ความเชื่อใจนี้ ถือเป็นการให้เกียรติ และการยอมรับในความต้องการ ที่แตกต่างของกันและกัน หมายถึงทั้งคู่ต้องไม่โกหก หลอกลวง และจะไม่พูด หรือทำ สิ่งใดที่ทำให้อีกคนต้องเสียใจ หรือเป็นการ ทำลายชีวิตคู่
2. การรักษาสัญญา
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตแต่งงาน เมื่อคุณได้ให้สัญญาต่อกัน สัญญานั้น เปรียบเสมือนเกราะป้องกัน ไม่มีสิ่งใดมาทำลายความรักของคุณได้ “จะรักคุณ.ไม่ว่ายามเจ็บหรือยามสบาย จะรักคุณจนกว่าชีวิต จะหาไม่” คำสัญญานี้ จะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายจากกันไปเท่านั้น การรักษาคำมั่นสัญญา นอกจากจะช่วยให้คุณทั้งสอง สามารถผจญกับ อุปสรรคต่างๆ จนไปถึงเป้าหมายสูงสุดได้แล้ว มันยังช่วยให้คุณดิ่งลงสู่ก้นเหวแห่งความทุกข์..เพราะคุณ ผิดคำสัญญานั้น
3. มีทักษะความชำนาญ
ชีวิตแต่งงาน เป็นการที่คนทั้งสอง ตกลงว่าจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ซึ่งต้องอาศัยการทำความเข้าใจกันมากเป็นพิเศษ คุณต้องสามารถ แสดงออกว่า ต้องการอะไร รู้จักรับฟังเหตุผล ของอีกฝ่าย สามารถตัดสินใจ ในเรื่องต่างๆ ได้ดี สามารถไกล่เกลี่ยต่อรองได้ แก้ปัญหาข้อขัดแย้งได้ ให้ความสนใจที่จะ พูดคุยกัน และแน่นอน คุณจำเป็นต้องรู้ว่าจะทำมาหากินอะไร และรู้วิธีทำอาหาร วิธีดูแลบ้านช่องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และสำคัญที่สุด วิธีการเป็นพ่อเป็นแม่คนที่ดี เขาทำกันอย่างไร
4. การเอาใจใส่ดูแล
วิธีทะนุถนอมให้ชีวิตคู่ยืนยาวนั้น คุณต้องรู้จักวิธี เอาอกเอาใจกันบ้าง บางคู่แค่มองตา ก็รู้ว่าต้องการอะไร และจะทำแต่สิ่งที่เขาชอบ และจะไม่ ทำอะไรที่เขาไม่ชอบให้ขุ่นเคืองใจ ซึ่งจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน ที่ได้คุณเป็นคู่ชีวิต
อย่าทำลายรักของคุณ ด้วยคำว่า เบื่อ – ข้อคิดความรัก
5. การเอาใจเขามาใส่ใจเรา
“จงทำกับคนอื่นเหมือนกับ ที่อยากให้คนอื่นทำกับคุณ” หมายความว่า การจะทำสิ่งใดก็ตาม ให้คุณคิดก่อนว่า เมื่อทำแล้วจะทำให้เกิด ผลดี หรือผลเสีย กับใครหรือเปล่า ถ้าไม่ดีก็อย่าทำ เพราะคุณคงไม่อยากให้ใครมาทำแบบนั้นกับคุณเหมือนกัน วิธีนี้นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณทำอะไร ที่จะทำร้ายจิตใจคนที่คุณรักแล้ว ยังเป็นเหมือนตาข่ายที่จะช่วยกลั่นกรองให้คุณทำหน้าที่สามีหรือภรรยาที่ดี ได้สำเร็จอีกด้วย
6. ความเพียร
จะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณเป็นคนที่ เชื่อใจได้ รักษาสัญญา มีความรู้ มีทักษะ และรู้วิธีดูแล เอาใจใส่ แต่ไม่ได้ใช้มัน การที่ชีวิตคู่จะอยู่ดีมีสุขได้ คุณต้องใช้ความพยายามในทุกๆด้าน ตลอดทั้งชีวิตของคุณทีเดียว
7. การคาดหวัง
เหตุผลอย่างหนึ่ง ที่ทำให้คู่สามีภรรยารู้สึกว่าชีวิตแต่งงานของตัวเองล้มเหลว เมื่อพบว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ตั้งความหวังกับตัวเองไว้สูงมาก เป็นเรื่องปกติที่คนเราจะวาดวิมานในอากาศ ถึงความสุขีสุโข กับชีวิตคู่ โดยคาดหวังว่า คู่ของตัวจะต้องเลิศเลอเพอร์เฟค เป็นเพื่อนคู่คิดที่ดี เป็นตู้ ATM ให้กดได้ตลอดเวลา และที่สำคัญ มีความช่ำชองที่สุด กับเรื่องบนเตียง
เฮ้ย.. ดูท่าความฝันคงไม่มีทางเป็นจริงได้! เพราะเรื่องจริงกับ ความฝัน มันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน แน่นอนที่คุณจะต้องพบกับความผิดหวังครั้งใหญ่ ต้องเผชิญกับความล้มเหลว ความเสียใจ แต่เชื่อเถอะ ในที่สุด คุณจะค่อยๆ ยอมรับความจริงได้เอง
อย่าทำลายรักของคุณ … ด้วยคำว่า เบื่อ !
วิธีดูแลความรัก ให้รักอยู่ยาวนาน และสบายใจ
? เลือกเวลาพูด
เลือกเวลาเหมาะๆ เพื่อใช้เป็นเวลาอันมีค่า สำหรับพูดคุยกับคนรัก เกี่ยวกับชีวิตคู่ของคุณทั้งสอง หมั่นแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก และความต้องการของคุณ แต่เฉพาะในแง่ดีและสร้างสรรค์เท่านั้น เพราะยังไม่ถึงเวลา ที่จะมาต่อว่าหรือโต้เถียงกัน กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึก ที่เป็นตัวตนจริงๆ ออกมา ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์แบบไหน : สนุกสนานเริงร่า เจ็บช้ำน้ำใจ เพ้อฝัน หรือแม้แต่ เวลายินดี มีความสุข) โดยไม่ต้องคำนึงถึง เหตุผล ดีเลว และถูกผิด ใดๆทั้งสิ้น
? คำพูด
คิดจะพูด ก็ให้พูดเพื่อตัวคุณเอง โดยใช้คำเหล่านี้ “ฉันรู้สึกว่า” “ฉันอยากจะ..” “ฉันคิดว่า..” “ฉันชอบ..” แต่อย่าพูด แบบกลัวๆ กล้าๆ “คุณว่า?” หรือ “เขาพูดกันว่า?” มันทำให้คุณดูไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
? ภาษาดอกไม้
ค่อยพูดค่อยจากัน ด้วยภาษาดอกไม้ ให้ฟังแล้วรื่นหู “ฉันชอบจังค่ะ เวลาที่คุณช่วยฉันล้างจาน” พูดอย่างไรก็ได้ ให้คนฟังรู้สึกดีๆ และไม่เป็น การจุดชนวน สงครามน้ำลาย ขึ้นกลางวง
? เวลานอก
ควรให้มีการ “ขอเวลานอก” ในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด รู้สึกอึดอัด หรือยังไม่พร้อมที่จะสนทนาในเรื่องนั้นๆต่อ ก็สามารถ “ขอเวลา นอก” ซึ่งอาจจะพักสักครู่หนึ่ง หรือไม่ก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาซ่ะ โดยไม่ต้องถามเหตุผลใดๆ ทั้งนั้น เพราะเราจะรู้สึกสนุก กับการ เล่า ก็ต่อเมื่อเราสามารถเลือกเรื่อง เลือกเวลา ที่เราอยากเล่าได้
? ฟังอย่างตั้งใจ
หัดฟังคนอื่นเขาบ้าง และต้องฟังอย่างตั้งใจด้วย ว่าที่เขาพูด หมายความว่าอย่างไร แล้วลองเช็คกลับไป ด้วยการพูดทวนว่า ที่คุณเข้าใจนั้น ถูกต้องตามที่เขาพูดไหม จำไว้ว่า “เมื่อไรที่ไม่แน่ใจ ไม่เคลียร์ ให้ถามได้เลย! “