ภาพจำของความรักสมัยหนึ่งของเราทุกคน หนีไม่พ้นความรักที่เป็นความสวยงาม ความรักที่ชนะทุกสิ่ง ขอแค่รักมั่นคงก็จะผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยกัน
แต่ฮัลโหล..นี่คือชีวิตจริง ความรักในชีวิตจริงมันเปราะบางจะตาย ความรักของคนสองคนมันแพ้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้
รัก..แพ้ระยะทาง แพ้เงิน แพ้ความใกล้ชิด เเพ้เวลา ซึ่งเหตุผลเดียวที่แพ้ก็เพราะความรักอย่างเดียวมันไม่เคยพอ ความรักอย่างเดียวไม่เคยเอาชนะอะไรได้เลย
เพราะความรักเป็นแค่จุดสตาร์ตที่ทำให้คนสองคนเริ่มสานสัมพันธ์กัน แต่สิ่งที่ต่อจากนั้นต่างหากคือของจริง ที่ต้องพัฒนาและเรียนรู้ไปด้วยกัน โดยมีความรักเป็นส่วนประกอบ
นอกเหนือจากนั้นแล้ว อะไรบ้างที่จะประกอบกันเป็นรักดีๆ และนี่คือคำตอบที่หลายคนถามหา
” เงิน ”
คำตอบที่หลายคนยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่อยากจะพูดออกมาให้ชัดเจน แต่ “เงิน” ก็เป็นปัจจัยที่แทบจะทุกคนกระมิดกระเมี้ยนตอบ และมันก็คือเรื่องจริงทำให้ความรักดีๆ เกิดขึ้นได้
ระหว่าง’ความรัก’ กับ ‘เงิน’ จะเลือกอะไร ?
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ‘ความรัก’ น่าจะได้ความนิยมถล่มทลาย แต่เดี๋ยวนี้เชื่อว่าคนเราส่วนใหญ่จะเทคะแนนไปที่ ‘เงิน’ และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกทั้งสองอย่าง เพราะความรักในมุมมองของเค้า ‘เงิน’ ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งในความรัก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด
สมัยนี้ไม่มีใครกัดก้อนเกลือกินได้อีกแล้ว และถ้าให้พูดกันตามตรง..บางทีรักก็ต้องมาคู่กับความพร้อมในหลายด้านๆ เพราะหลายอย่างในโลกนี้ใช้เงินเป็นตัวแปรสำคัญทั้งนั้น
แล้วแบบนี้..ไม่มีเงิน = ไม่มีความรัก ?
คำตอบคือ ‘ไม่ใช่’
เรากำลังพูดถึงรักดีๆ กันอยู่ไง เพราะฉะนั้นรักดีๆ รักที่ส่งเสริมกัน ความรักแบบนี้ต้องมีตัวแปร และ ‘เงิน’ ก็คือหนึ่งในตัวแปรนั้น ถึงจะเป็นเรื่องวัตถุนิยม ความโลภหรืออะไรไปสักหน่อย แต่มันก็คือเรื่องจริง !
” ความเข้าใจ ”
มาที่เรื่องนามธรรม จับต้องไม่ได้ แต่มันโคตรจริงเลยสำหรับความรัก ก็คือรักดีๆ ต้องมาพร้อมความเข้าใจ
‘เข้าใจ’ ในที่นี้ก็คือต้องเข้าใจทั้งธรรมชาติของความรัก และธรรมชาติของคนรัก เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่รักอย่างเดียว โดยไม่เข้าใจอะไรเลย ความรู้สึกแบบนั้นก็เป็นแค่ความหลง และกิเลสอย่างหนึ่ง
ดังนั้นสิ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือ ความรักมันทำให้ทั้งสุขและทุกข์ได้เสมอ พอคาดหวังมากๆ ก็ทำให้ทุกข์มาก พอไม่มีอะไรยึดเหนี่ยว ความรักก็พร้อมจะจากไปทุกเมื่อ สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของความรักที่เราทุกคนต้องทำความเข้าใจ เพราะถ้าไม่เข้าใจ เราจะไม่มีวันรักได้ โดยไม่เจ็บ
ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือต้องเข้าใจคนของเราเองด้วย เค้าเป็นคนยังไง อย่าลืมว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง เราเองก็มีข้อเสีย เค้าเองก็ต้องมีข้อดี เราถึงได้รักกันไงล่ะ เพราะฉะนั้นความเข้าใจก็เลยเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวตนของกันและกัน พอเข้าใจก็จะยอมรับ พอยอมรับได้ก็ไม่มีปัญหา แล้วพอไม่มีปัญหา ก็นั่นแหละความรักดีๆ
” การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ”
คำว่า ‘ให้เกียรติกัน’ ในเรื่องของความรักเป็นคำจำกัดความที่ครอบคลุมการใช้ชีวิตโดยรวม เพราะการให้เกียรติกันสำคัญมากในการใช้ชีวิตกับใครสักคน
ให้เกียรติกันก็ต้องซื่อสัตย์ต่อกัน
ให้เกียรติกันก็ต้องไว้เนื้อเชื่อใจกัน
ให้เกียรติกันก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน
ให้เกียรติกันก็ต้องนึกถึงความรู้สึกของกันและกัน
ให้เกียรติกันก็ต้องพูดคุยกันดีๆ
การให้เกียรติคนที่เรารักเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของคนรัก จะเรียกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คนรักกันต้องปฏิบัติต่อกันก็ได้ เพราะเมื่อรักกันแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ได้ยากลำบาก แค่ต้องให้เกียรติกันทั้งต่อหน้าและลับหลังก็เท่านั้นเอง
” อนาคตร่วมกัน ”
การมองไม่เห็นอนาคตร่วมกัน ไม่ใช่ทางที่ความรักจะเดินต่อไปได้ ต่อให้เป็นความรักที่ลงตัวแค่ไหน แต่การมองไม่เห็นภาพเดียวกันย่อมไม่ใช่รักดีๆ ที่ทุกคนตามหา
ถึงแม้ปัจจุบันมันจะดี และการทำวันนี้ให้ดีที่สุดจะเป็นเรื่องถูกต้อง แต่กับความรักมันต้องมีมากกว่านั้น อย่างน้อยมันก็ต้องมีทางให้ความรักได้เติบโต ได้เดินต่อ ไม่ใช่รักกันไปวันๆ ในแบบที่มองไม่ออกด้วยซ้ำว่ารักกันต่อไปแล้วจะยังไงต่อ
พูดกันตามตรง..ความรักแบบนี้สะท้อนถึงความไม่มั่นใจทั้งในตัวเอง และในตัวของอีกฝ่าย แล้วรักที่อยู่บนพื้นฐานของความไม่มั่นใจ ก็คงเรียกว่าเป็นรักดีๆ ไม่ได้
ถ้าจะบอกว่าคนรักกัน ต้องมีอนาคตร่วมกัน อาจดูฟันธงไปหน่อย แต่มันก็คือเรื่องจริง เพราะอีกนัยยะของการมีอนาคตร่วมกันก็คือความจริงจังกับความสัมพันธ์ที่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งถ้าไม่ได้มองภาพเดียวกัน ไม่ได้มีเป้าหมายจะรักกัน จะอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก ความรักก็คงไปต่อไม่ได้
ถึงแม้คนมีความรักทุกคนจะอยากมีรักดีๆ สักครั้งในชีวิต แต่รักดีๆ ก็ไม่ได้การันตีว่าเราจะไม่เจ็บ ไม่ทุกข์ แค่เริ่มต้นรัก ยังไงก็หนีไม่พ้นความทุกข์ เพราะฉะนั้นปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ แค่เข้าใจว่ารักอย่างเดียวมันไม่พอ ที่เหลือก็ปล่อยให้ความสัมพันธ์มันดำเนินไป สุดท้ายรักดีๆ จะมาเอง