เมื่อรักล่มแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะสาเหตุเหล่านี้หรือเปล่านะ
คู่รักหลายคู่ที่คบกันมานานมากจนคนภายนอกมองว่าคู่นั้นๆ ต้องลงเอยด้วยการแต่งงานแน่ๆ แต่เหตุการณ์กลับพลิคล็อคเมื่อคู่รักนั้นๆ มีอันต้องเลิกรากันไป จนมีคำพูดว่าเกี่ยวกับอาถรรพ์บ้าง แต่จริงๆ แล้วเกิดขึ้นเพราะสาเหตุอะไร
1. ความรักมันหมดไปแล้ว
คู่รักที่คบกันมานานไม่ได้มีแต่ความรัก แต่ยังมีความผูกพันและความทรงจำดีๆ ร่วมกัน ซึ่งบางครั้งความรักมันหมดลงไปแล้วจากสิ่งที่เคยพึงพอใจก็กลับไม่พอใจ ไม่ต้องหาเหตุผลอื่นๆ ต่อเลยเพราะเหตุผลหลักในการบอกเลิกคือหมดรักแล้วก็เท่านั้นเองค่ะ บางคู่ยื้อกันไปเพราะความผูกพันและความทรงจำดีๆ สุดท้ายแล้วเมื่อหมดรักความสัมพันธ์ก็ต้องยุติลงอยู่ดี
2. มีคนใหม่แล้ว
สืบเนื่องมาจากข้อที่ 1 คือเมื่อความรักมันหมดไปแล้ว หากมีใครคนอื่นเข้ามาในชีวิตและมาเติมเต็มได้มากกว่า ก็ย่อมต้องเลือกคนที่เข้ามาใหม่และบอกลาคนเก่าไป ซึ่งเป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาจากการหมดรักคนปัจจุบันและยังยื้อความสัมพันธ์ต่อไปจนมีใครที่ใช่กว่าเข้ามาแทรก จึงมักเกิดข้อเปรียบเทียบระหว่างคนใหม่และคนปัจจุบันและทำให้ตัดสินใจบอกเลิกคนเก่าในที่สุด
3. ยิ่งคบยิ่งมองไม่เห็นอนาคต
เหมือนความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่เป็นการคบเพื่อผ่านไปวันๆ ไม่เห็นอนาคตร่วมกัน มองภาพไม่ออกว่าแต่งงานไปจะเป็นอย่างไร เหมือนยังไม่รู้สึกมั่นใจในตัวของฝ่ายชายว่าสามารถดูแลเราได้ในอนาคต กลับมามองดูปัจจุบันก็ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง แม้จะยังรักและผูกพันแต่ก็มีผู้หญิงหลายคนที่ตัดสินใจเลือกที่จะบอกเลิกดีกว่า
4. ทัศนคติไม่ตรงกัน
ฟังเหมือนเหตุผลน้ำเน่า แต่เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้คู่รักที่คบกันมานานเลิกรากันไปหลายคู่ค่ะ หลายคนอาจจะเถียงว่ารู้ว่าไม่ตรงกันแล้วคบกันมานานขนาดนี้ได้ยังไง เหตุผลก็คงหนีไม่พ้นความรักนั่นเอง พอรักใครคนเรามักเลือกที่จะหลับหูหลับตามองข้ามข้อด้อยของอีกฝ่าย แต่เมื่อคบไปถึงจุดจุดนึง หากทั้งสองไม่ได้มีเป้าหมายเดียวกันแล้วล่ะก็ย่อมทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งตามมาและตัดสินใจเลิกรากันในที่สุด
5. ยิ่งคบยิ่งเหนื่อย
สืบเนื่องมาจากทัศนคติที่ไม่ตรงกัน คนหนึ่งไปทางซ้าย อีกคนจะไปทางขวา การปรับจูนกันแทบไม่ช่วยอะไรเลย เพราะสุดท้ายแล้วต่างคนก็ต่างกลับไปเป็นตัวของตัวเอง การทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาย่อมทำให้ต่างฝ่ายต่างเหนื่อยซึ่งความสัมพันธ์ที่ทุลักทุเลนี้สุดท้ายก็ต้องจบลงในที่สุด
6. มีแฟนหรือไม่มีก็ไม่ต่างกัน
ผู้หญิงเราเมื่อมีแฟนก็อยากได้รับการดูแลเอาใจใส่ และเป็นที่ปรึกษา เป็นเพื่อนคู่คิดแต่เมื่อมีแฟนแล้วยังต้องเผชิญเรื่องร้ายๆ เพียงลำพัง หันหน้าไปปรึกษาใครก็ไม่ได้ หรือยังต้องดูแลตัวเองทุกอย่างเหมือนตอนโสด จะมีหรือไม่มีก็คงไม่ต่างกันเท่่าไหร่ ดังนั้นบอกเลิกไปชีวิตก็คงไม่เปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่จริงไหมคะ
คงหายข้องใจกันบ้างแล้วนะคะว่าทำไมผู้หญิงถึงตัดสินใจบอกเลิกแฟนที่คบกันมานาน แต่ท้ายที่สุดแล้วการเลิกรากันไปแม้จะสร้างความเจ็บปวดให้ทั้งสองฝ่าย แต่ก็ดีกว่าการยื้อความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ให้เสียเวลาต่อทั้งคู่และสุดท้ายก็เจ็บหนักกว่าเดิม เรียกว่าเจ็บแต่จบดีกว่าค่ะ