เลิกกันแล้วเป็นเพื่อนกันได้ไหม คำถามที่หลายคนสงสัยจากคนเคยรักกันเมื่อความสัมพันธ์จบลงจะยังเป็นเพื่อนกันได้หรือไม่ แล้วจะต้องวางตัวอย่างไรถึงจะเหมาะสม และไม่ล้ำเส้น มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
ความรักเปรียบเหมือนเหรียญสองด้าน ที่เวลาคบกันก็มีความสุข แต่ในทางกลับกันก็ทำให้คุณเกิดความทุกข์ได้เมื่อความสัมพันธ์มาถึงทางตัน จนหลายคู่เลือกที่จะจบปัญหาด้วยการเลิกรากันไป โดยหลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยด้วยเหตุผลหลายอย่าง แต่ก็มีบางคู่ที่จบกันแล้วยังสามารถกลับมาเป็นเพื่อน ไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลงกันได้เหมือนเดิมแบบไม่คิดอะไร จนหลายคนสงสัยว่าพวกเขาทำใจได้อย่างไร
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า เลิกกันแล้วเป็นเพื่อนกันได้ไหม ? วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบ ด้วย 8 วิธีเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าให้ได้แบบสนิทใจ โดยเริ่มจากลองเปิดใจมองโลกในแง่ดีก่อน จากนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูพร้อมกันเลย !
1. ใช้เวลาพักใจจากความเจ็บปวดสักระยะ
คนป่วยยังต้องใช้เวลาพักฟื้นให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม อาการอกหักก็เช่นเดียวกัน ไม่มีใครดีขึ้นหรือเริ่มใหม่ได้ภายในวันเดียวหรอกจริงไหม ? ดังนั้น ก่อนจะเป็นเพื่อนกันได้ต้องใช้เวลา หยุดคิดถึงเรื่องเขาแล้วหันกลับมารักตัวเองให้มากๆ อาจจะใช้เวลาไปกับการดูหนัง ออกไปพบปะเพื่อนฝูง หรือหางานอดิเรกสนุกๆ ทำก็ถือเป็นไอเดียที่ดี
2. ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มเมกเฟรนด์กับเขาได้เลย
หากคุณสามารถเผชิญหน้ากับเขาได้อย่างสนิทใจ โดยไม่คิดเกินเพื่อนหรือนึกถึงเรื่องเก่าๆ ในอดีต นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณพร้อมที่จะเป็นเพื่อนกับเขาแล้ว เริ่มจากทักข้อความไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ โดยใช้คำถามเบสิก เช่น สบายดีไหม ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง และหลีกเลี่ยงการพูดว่า คิดถึง เพราะถึงตอนนี้จะเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่อย่าลืมว่าในอดีตพวกคุณเคยเป็นคนรักกันมาก่อน จึงถือเป็นคำที่ละเอียดอ่อนซึ่งไม่ควรหลุดพูดออกไปโดยเด็ดขาด ถึงแม้คุณจะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ก็ตาม
3. อย่าพูดถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมา
ไม่ควรพูดถึงเรื่องในอดีต โดยเฉพาะปัญหาที่ทำให้คุณทั้งคู่เลิกกัน เพราะนั่นแสดงว่าคุณยังไม่ปล่อยวาง และอาจทำให้เขารู้สึกไม่ดีจนไม่อยากเป็นเพื่อนกับคุณอีกเลย แนะนำให้พูดเรื่องใหม่ๆ ผลัดกันอัปเดตชีวิตของกันและกัน จะช่วยทำให้บรรยากาศผ่อนคลายและคุยกันได้อย่างสบายใจขึ้น
4. ไม่ล้ำเส้นเกินคำว่าเพื่อน
ไม่ว่าคุณจะรู้สึกดีแค่ไหนก็ต้องนึกไว้เสมอว่าตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน ดังนั้น ควรมีระยะห่างที่พอดี หลีกเลี่ยงการพูดหรือแสดงออกเหมือนตอนคบกัน เช่น เช็กโทรศัพท์ของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต แสดงอาการหึงหวงเมื่อเขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น ที่สำคัญห้ามแตะเนื้อต้องตัวกันเป็นอันขาด !
5. ไม่ไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสอง
ข้อนี้ถือเป็นกฏเหล็กเลยก็ว่าได้ เพราะการไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสองนอกจากจะเสี่ยงต่อการเกินเลยแล้ว หากอีกฝ่ายมีแฟนแล้วอาจจะทำให้เกิดปัญหาไม่เข้าใจกันตามมาได้ ด้วยเหตุนี้จึงควรมีเพื่อนไปด้วยทุกครั้ง หรือถ้าจำเป็นจริงๆ แนะนำให้นัดเจอกันตอนกลางวันในร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่มีคนเยอะๆ จะดีกว่า
6. อย่ามูฟออนเป็นวงกลม
อย่าใช้ความเป็นเพื่อนสานสัมพันธ์กลับไปเป็นแฟนกันเหมือนเดิม เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกเหมือนกันหรือไม่ หรือเขาอาจกำลังศึกษาดูใจกับคนอื่นอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้น ถ้าคุณไม่อยากหน้าแตกกลับไปนั่งทำใจใหม่ละก็ หยุดคิดหาวิธีที่จะทำให้เขากลับมาคืนดีแล้วมูฟออนจากวงจรนี้ซะเถอะ
7. ถึงเวลาเปิดใจรับคนใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต
เคยได้ยินไหมว่าเสียใจได้แต่อย่านานจนทำให้เราพลาดสิ่งดีๆ ที่เข้ามาในชีวิต ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รู้จักคนใหม่ๆ บ้าง แล้วจะรู้ว่ายังมีคนที่ดีและพร้อมจะเดินเคียงข้างคุณอีกมาก แต่ถ้ายังไม่พร้อมอย่าเพิ่งรีบคบใครเพื่อแก้เหงาหรือประชดแฟนเก่าเด็ดขาด เพราะไม่มีใครอยากโดนทำแบบนี้หรอก รวมถึงตัวคุณเองด้วย
8. ยินดีเมื่อเขาเจอคนที่ดี
ไม่เพียงแต่คุณที่ต้องมูฟออนเท่านั้น เขาก็ต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น หน้าที่ของเพื่อนอย่างคุณคือยินดีเมื่อเขาเจอคนที่ดี หากรู้สึกยินดีจากใจจริงแล้วละก็ แสดงว่าคุณสามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้อย่างสนิทใจแล้ว
เห็นไหมคะว่าถึงจะจบความสัมพันธ์กันไปแล้วก็ยังสามารถกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ เผลอๆ บางคู่ตอนเป็นเพื่อนอาจรู้สึกดีกว่าตอนคบกันด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ลองนำวิธีที่เราเอามาฝากกันในวันนี้ไปปรับใช้ดูนะคะ เผื่อจะช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อย