หนึ่งในสาเหตุแห่งทุกข์ของคนส่วนใหญ่หนีไม่พ้นเรื่องความรัก
แม้รักจะทำให้ทุกข์ แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยนึกถึงมุมนี้ของความรักกันซักเท่าไหร่ เพราะเมื่อ ‘รัก’ แล้ว ก็หวังแต่เพียงว่าจะมีความสุข จะเป็นรักที่ดีที่ปราศจากทุกข์ไปตลอดกาล
แท้จริงแล้วความรักคืออะไร ถ้าตอบในมุมทางโลก ‘รัก’ คือการมีใจผูกพันด้วยความห่วงใย แต่ถ้าเป็นทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงความรักไว้ในหลายแง่มุม แต่ที่คุ้นที่สุดก็คือคำว่า ‘ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์’
ความแตกต่างของความรักทางโลกและทางธรรมก็คือ การมองความรักในแง่มุมที่ต่างกัน ถ้าเป็นทางโลก ‘รัก’ คืออุดมคติที่เท่ากับความสุข แต่ถ้ามองในทางธรรม ‘รักจะเท่ากับทุกข์’ ทันที เพราะการคาดหวังว่ารักจะมีแต่ความสุขก็เท่ากับทุกข์แล้ว
เพราะ ‘รัก = ทุกข์’ ทำให้หลายคนตามหารักดีๆ ที่จะไม่ทำให้เจ็บปวด
คำถามก็คือ..รักแบบไหนถึงจะเรียกว่าเป็นรักที่ดี
รักดีๆ อาจมีได้หลายคำตอบ แต่ที่แน่ๆ ก็คือรักมากไม่ใช่รักที่ดี เพราะรักที่มากเกินไป ก็สามารถทำร้ายคนที่ถูกรักได้เหมือนกัน เพราะอะไรที่สุดโต่งเกินไป มักสะท้อนกลับมาในแง่ลบเสมอ
“รักมาก” “รักแรง” ก็ทำให้อีกคนรู้สึกเป็นภาระไม่น้อย สู้รักกันแบบสบายใจ ไม่กดดันน่าจะเป็นความรักที่ดีที่สุด แต่รักยังไงถึงจะมีความรู้สึกแบบนี้ ก็คือต้องรักให้เป็น รักแบบไม่ครอบครอง ไม่ได้เป็นเจ้าของ รักแบบไม่ต้องทำร้ายกันด้วยคำพูดและการกระทำ รักแบบเว้นระยะให้อีกคนได้หายใจ ได้เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งถึงจะไม่ใช่รักที่หวือหวาแต่ก็เป็นรักเบาๆ ที่ยั่งยืน
ทว่าการมีรักที่ดีก็ยังไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ทุกข์ เพราะรักแบบเดียวที่จะทำให้ปราศจากความทุกข์ไปได้ก็คือความรักที่เกิดขึ้นด้วยเมตตาและปัญญา เป็นรักที่ไม่คาดหวัง ไม่ยึดติด ไม่ถือมั่น ไม่เป็นเจ้าของ เป็นรักที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดี ไม่มีเงื่อนไขว่าต้องได้รับรักตอบ หรือเขาต้องมาทำดีกับเรา
เหตุที่เราต้องเข้าใจความรักก็เพื่อเตือนว่า ‘รัก’ มีได้ทั้งทุกข์และสุข และปริมาณของความทุกข์มักมีมากกว่าเสมอ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วคงไม่มีใครสามารถบังคับใจไม่ให้มีความรักได้ เพราะฉะนั้นจงเตือนสติตัวเองไว้เสมอว่า เมื่ออยากรัก ก็ต้องพร้อมที่จะทุกข์ และต่อให้มีความรักที่ดียังไง สุดท้ายก็อาจหนีไม่พ้นคำว่าทุกข์เช่นกัน
เดี๋ยวนี้คนเราชอบทำให้ความรักเป็นเรื่องยากและซับซ้อน พอมีรัก ก็เลยมีทุกข์ไปโดยปริยาย ทั้งที่ความจริงแล้วสิ่งที่เราทุกคนทำได้เมื่อมีรัก น่าจะเป็นการปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องกำหนด กฎเกณฑ์ ไม่ต้องคาดหวัง อย่าลืมว่ารักที่สบายใจที่สุดคือความรักที่ทำให้คุณกล้าที่จะเปิดเผยทุกสิ่ง กล้าที่จะแบ่งปันเรื่องราวให้ใครอีกคนได้รับรู้ ทั้งความสุขและประสบการณ์อันเจ็บปวด โดยที่อีกคนก็พร้อมที่จะฟัง จะอยู่เคียงข้าง และกุมมือไปด้วยกัน
รักแบบนี้น่าจะเป็นรักที่หลายคนตามหา อาจไม่ใช่รักแรงที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก แต่เป็นรักที่สบายใจด้วยกันทั้งฝ่าย เป็นรักที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามความรู้สึก..ใช้ “ใจ” เป็นเครื่องนำทาง แล้วเมื่อถึงเวลาเราจะรู้สึกได้เองว่านี่แหละคือ “รักดีๆ”
“ความรักเป็นดอกไม้ชนิดเดียว ที่เติบโตและผลิบานได้ โดยไม่ต้องพึ่งฤดูกาล”
-คาลิล ยิบราน- (กวีชาวเลบานอน)