“ไม่ต้องรักเหมือนคนรักก็สุขหัวใจ เพียงแค่เราเข้าใจ เหนือคำอื่นใดในโลกนี้” หลายคนคงคงจะคุ้นเคยกันดีกับเนื้อเพลงข้างต้น โดยเฉพาะคนที่กำลังตกอยู่ในสถาะ “เพื่อนก็ไม่ใช่ แฟนก็ไม่เชิง”
หากพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของคนเรานั้น นอกจาก ญาติ, พ่อแม่, เพื่อพี่น้อง แล้วนั้น ที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ คนรัก หรือ แฟน นั่นเอง โดยการกำหนดสถานภาพต่อกันในสังคม เพื่อเป็นการบ่งชี้ถึงความชัดเจนต่อคสัมพันธ์หรือเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ นั่นแล
ซึ่งหากพูดถึงเรื่อง คนรัก พัฒนาการของความสัมพันธ์นั้นมักจะเริ่มจาก ความชอบ การทำความรู้จัก สนิทสนม เริ่มมีความผูกพัน และนำไปสู่การตกลงปลงใจคบหากันเป็นแฟน ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไปที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่สำหรับบางคนกลับเดินทางไปไม่ถึงคำว่าแฟน และตกอยู่ในห้วง “คบแบบไม่มีสถานะ” แทน
ไร้สถานะ
อันที่จริง สถานะแบบนี้ ดูแล้วผิวเผินก็เหมือนคนเป็นแฟนกันปกติ เพราะการกระทำต่างๆ ที่ปฏิบัติต่อกันเป็นตามนั้นแทบทุกอย่าง ติดแค่อย่างเดียวคือ “ไม่ได้ใช้คำว่าแฟน” อ้าว ในเมื่อการกระทำมันเหมือนกันทุกอย่าง แล้วเสียหายยังไงล่ะ
รู้เขา รู้เรา
ถ้าถามว่า การไร้ซึ่งสถานะ นี้เป็นข้อดีหรือข้อเสียยังไง เราคงไปชี้ชัดอะไรตรงจุดนี้ไม่ได้นัก เพราะความสัมพันธ์นั้นเกิดขึ้นระหว่างคนสองคน และยิ่งกับความสัมพันธ์แบบไรสถานะนี้ ถ้าต้องมีทั้งฝ่ายที่ได้เปรียบ และเกิดความเสียเปรียบกับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน
ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่มีสถานะที่ชัดเจนสักที ตอบได้เลยว่า ยังคงมีฝ่ายหนึ่งที่ต้องการความเป็นอิสระ ไม่ต้องการถูกตีกรอบด้วยคำว่าแฟน
จริงอยู่ ว่าการคบกันแบบไรสถานะ นั้นทำให้เกิดความอิสระไม่ต้องกดดันมากมาย ไม่ต้องถูกจำกัดจากใคร แต่สถานะนี้ควรมาจากการยอมรับของทั้งสองฝ่าย เพราะด้วยความอิสระและไม่ถูกจำกัดนี้ อาจทำให้ไม่จำเป็นต้องคอยห่วงหา และใกล้ชิดกันตลอดเวลา ทำอะไรก็ได้ตามใจตามสบาย
งานงอก
ถ้าทั้งสองฝ่ายปลงใจที่จะดำเนินความสัมพันธ์แบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่! ส่วนใหญ่แล้ว มันไม่เป็นแบบนี้ไปตลอดนี่สิ เพราะแน่นอนว่าหากเกิดความสัมพันธ์ขึ้นระหว่างสองคนจนผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความผูกพันมันจะตามมาเสมอ
ซึ่งปัญหาที่ตามมา มักเกิดจากฝ่ายหนึ่งที่มีใจเผลอคืดไปไกลเกินกว่าขอบเขตความสัมพันธ์นี้ เกิดความรักและคิดที่จะจริงจังมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่และสุดท้ายคือการต้องการความชัดเจน!
ทางออกที่คู่ควร
เมื่อมีใครสักคนต้องการที่จะเห็นความชัดเจนในความสำคัญนี้ ก็อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาตามมา นั่นคือความเห็นที่ไม่ตรงกัน สิ่งที่ควรทำอย่างมากคือการเปิดใจคุยกันตามตรง บอกในสิ่งที่ต้องการให้อีกฝ่ายรับรู้ ซึ่งจุดนี้อาจลงเอยด้วยดีเห็นตรงกัน และพัฒนาความสัมพันธ์ให้ชัดเจนขึ้น
แต่ในอีกด้านหนึ่ง การเปิดอกพูดคุยกันอาจไม่ได้ลงตัวอย่างสวยงาม ในเมื่อความต้องการความชัดเจนของฝ่ายหนึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของอีกฝ่าย สุดท้ายจบลงที่การบอกลา คนที่คิดไกลมากกว่าอาจต้องนอนระทมกอดหมอนซับน้ำตาตั่วเองไประยะหนึ่ง
หรือในอีกมุมหนึ่ง ฝ่ายที่เกิดความรักและคิดไปไกล เลือกที่จะไม่บอกเก็บเป็นความลับไว้ภายในใจ โดยยกเหตุผลเพียงว่ากลัวจะมีปัญหากัน จึงจำต้องยอมโดยไม่มีเงื่อนไข ขอเพียงมีเขาอยู่ในชีวิตก็พอ
สำหรับคู่ไหนที่ติดอยู่ในวังวนของความไม่ชัดเจนแบบนี้อยู่ จำไว้เลยว่าทางออกข้างต้นสามารถเป็นตัวเลือกให้คุณได้ แต่สองทางหลักๆ ของการทวงถามความชัดเจนนั้น หากไม่แฮปปี้เอนดิ้ง แน่นอนว่าต้องจบลงด้วยความสัมพันธ์ที่พังพินาศต่อไม่ติด
เพราะมนุษย์คือสสาร ซึ่งสสารคือสิ่งที่มีตัวตน มีมวล ต้องการที่อยู่และมี สถานะ เสมอ