ออกซิโตซินคือฮอร์โมนส์แห่งความรักและความเชื่อใจ
เพราะส่งผลโดยตรงให้เกิดความรักและความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ”
นอกจากดินเนอร์หรือดูหนังด้วยกันแล้ว จากการศึกษาที่เพิ่งค้นพบนั้นบอกว่า กิจกรรมที่ไม่จำเจระหว่างคู่รักนั้นจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้นได้ ข้อมูลจากงานวิจัยหนึ่งซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารเกี่ยวกับชีวิตการแต่งงานและครอบครัว ระบุถึงการหลั่งฮอร์โมนส์ออกซิโตซิน จากการทำกิจกรรมที่ทำร่วมกันอย่างเกมกระดานหรือการวาดรูป
” กิจกรรมระหว่างคู่รักนั้นจะช่วยกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนส์นี้ออกมา ”
Karen Melton ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านครอบครัวและวิทยาศาสตร์ผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัย Baylor กล่าวว่า “ออกซิโตซิน หรือที่ถูกขนานนามว่าฮอร์โมนส์แห่งรัก นั่นเป็นเพราะเจ้าออกซิโตซินนี้จะหลั่งออกมาเฉพาะตอนถูกกระตุ้นจากคู่รักเท่านั้น ซึ่งเราค้นพบแล้วว่ากิจกรรมระหว่างคู่รักนั้นจะช่วยกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนส์นี้ออกมา”
โดยการวิจัยนั้นคือเริ่มจากนำคู่รักทั้งที่แต่งงานแล้วหรืออยู่กินด้วยกันเข้ามามีส่วนร่วมในการทดสอบครั้งนี้ ซึ่งนักวิจัยพบว่าเพียงแค่การนึกคิดถึงคู่รักของเขาก็ทำให้สมองสั่งการหลั่ง
ออกซิโตซินได้ แล้วจากการให้พวกเขากรอกแบบสำรวจเกี่ยวกับคู่รักของตน
” ปรากฏว่ากลุ่มทดลองหลั่งฮอร์โมนส์ออกซิโตซินออกมามากขึ้นเมื่อได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ”
ต่อมานักวิจัยได้แบ่งกลุ่มคู่รักออกเป็นสองกลุ่ม โดยให้คู่รักกลุ่มแรกเล่นเกมกระดานกับคู่ของตน ส่วนกลุ่มที่สองถูกกำหนดให้ทำกิจกรรมวาดรูป โดยกำหนดเวลาทำกิจกรรมคือ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนักวิจัยได้เก็บตัวอย่างปัสสาวะของกลุ่มตัวอย่างมาวัดผล ปรากฎว่าค่าเฉลี่ยออกซิโตซินสูงขึ้นจาก 3.86 นาโนกัม/มิลลิลิตร เป็น 4.88 นาโนกรัม/มิลลิลิตร (แต่ความเป็นไปได้นั้นไม่แน่นอนหากจะนำสถิตินี้ไปวัดผลในชีวิตประจำวัน แต่ที่คอนเฟิร์มคือฮอร์โมนส์นี้จะหลั่งก็ต่อเมื่อคุ่รักทำกิจกรรมร่วมกันแน่นอน)
แต่มีสิ่งที่น่าสังเกตของกิจกรรมที่ต่างกันอยู่ คือ ผลสำรวจผู้ชายในกลุ่มศิลปะเห็นความต่างของฮอร์โมนส์ออกซิโตซินที่สูงขึ้นมากที่สุด ประมาณ 3 นาโนกรัม แต่ในส่วนของเกมกระดานนั้นผู้หญิงมีออกโตซินสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย และกลุ่มผู้ชายในเกมกระดานนั้นลดลงด้วยซ้ำ
” สำคัญที่การปลอบประโลมให้กำลังใจและการสัมผัสด้วยการโอบ ”
เพราะอะไรในกลุ่มผู้ชายหมวดศิลปะนั้นจึงหลั่งฮอร์โมนส์ตัวนี้มากกว่า ซึ่งนักวิจัยคิดไว้ว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับการวาดภาพแต่เป็นเพราะกิจกรรมที่แปลกใหม่ และจากการสังเกตคนในกลุ่มศิลปะมักจะให้กำลังใจกับคนรักของตนด้วยการพูดหรือการสัมผัส เช่น การโอบไหล่ ซึ่งผู้ชายนั้นไวต่อการกระตุ้นด้วยการสัมผัสทางกาย จึงสรุปได้ว่าการสัมผัสนั้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มระดับของฮอร์โมนส์ออกซิโตซินเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเราสามารถสรุปได้ว่า ไม่ว่าจะกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่คู่รักทำร่วมกันและทำให้เกิดการสัมผัสและพูดคุยควบคู่ไปด้วยนั้นจะส่งผลให้ออกโทซินหลั่งมามากขึ้น และข้อมูลที่ได้มานี้เป็นการวิจัยเพียงเบื้อต้น ทางผู้วิจัยยังต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมกันต่อไป