10 ลำดับขั้นของการมีชีวิตคู่ที่ดี
ขั้นที่ 1
อย่าเพิ่งไปเรียกร้องความรักจากใคร เราต้องอยู่อย่างมีความสุขคนเดียวให้ได้ก่อน
เมื่อมีความสุขแล้ว เมื่อพร้อมที่จะเป็นผู้ให้แล้ว จึงคิดมีความรักแบบคู่ครอง
ขั้นที่ 2
ทำตัวเองให้ดีก่อน ฆ่าความเห็นแก่ตัวของตนเองให้มากที่สุด และทำอย่างต่อเนื่อง
ทำด้วยความรู้สึกว่า ความเห็นแก่ตัวเป็นสิ่งชั่วร้ายที่เราต้องการกำจัดให้หมดไปจากใจ
ขั้นที่ 3
เมื่อสามารถมีความสุขด้วยตัวเองได้แล้ว เมื่อยกระดับจิตใจของตัวเองให้ดีได้แล้ว
ถ้าอยากมีชีวิตคู่ จงใช้สติปัญญาเลือกคบหาคนดีมาเป็นคู่ อย่าดึงคนเลวมาเป็นคู่
อย่าดึงคนที่ไม่สนใจการพัฒนาจิตใจของตนเองมาเป็นคู่ และสิ่งนี้ต้องใช้เวลาในการพิจารณาจนเกิดความแน่ใจแล้ว
จึงค่อยตัดสินใจ (อย่างไรก็ดี จะต้องเผื่อใจว่าด้วยว่า แม้พิจารณาดีแล้ว แต่อะไรๆ ก็ไม่แน่นอนทั้งนั้น)
ขั้นที่ 4
เมื่อคบกันแล้ว คนทั้งสองต้องตั้งทัศนคติให้ตรงกันว่า จะใช้สัมพันธ์ในชีวิตคู่เป็นเครื่องมือขัดเกลาจิตใจตนเอง
จะพากันไปสู่การละอัตตาตัวตน จะใช้ฐานะของความเป็นคู่รักนี้เป็นเครื่องมือลดทอนความเห็นแก่ตัวของตนเอง
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ต่างคนต่างมองมาที่ความผิดของตนเอง มองเข้าไปภายในตนเอง ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งบุคคลที่จะทำเช่นนี้ได้ ขอเน้นย้ำว่า จะต้องเป็นบุคคลเปิดกว้าง เป็นผู้ที่ผ่านการพัฒนาจิตใจของตนมาแล้วในระดับหนึ่ง
และสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่คนทั้งสองจะต้องตระหนัก และกระทำไปพร้อมกัน ไม่ใช่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกระทำอยู่ฝ่ายเดียว
ขั้นที่ 5
ความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิตคู่นั้น ไม่ใช่การเกิดขึ้นตามยถากรรม แต่เกิดจิตใจที่ปราถนาจะใช้ชีวิตตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดี ทั้งยังต้องมีทัศนคติของการใช้ชีวิตคู่ที่ถูกต้อง นั่นคือทัศนคติของการเป็นผู้ให้ มิใช่ผู้รับ มีความสามารถแยกออกว่าอะไรคือรัก อะไรคือหลง มีการยอมรับข้อด้อยของตน และพร้อมที่จะเรียนรู้ปรับปรุงตนเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องประกอบไปด้วยสติปัญญา และความเมตตาเป็นพื้นฐานทั้งสิ้น
ขั้นที่ 6
เมื่อไหร่ก็ตามที่ปล่อยให้ความสัมพันธ์เป็นไปตามกิเลส ปล่อยให้อัตตาของตนเป็นใหญ่เหนือความสัมพันธ์
ความสุขที่เคยมีในความสัมพันธ์ก็จะอัตธารหายไป แปรเปลี่ยนเป็นความรักแบบโลกๆ
วันนี้ดีกัน พรุ่งนี้โกรธกัน อีกวันรัก อีกวันเกลียด อีกวันเบื่อ
อยู่ด้วยกันเพียงเพราะความเคยชินและความกลัว นี่คือเรื่องที่น่าเศร้าใจที่สุด
ซึ่งเกิดกับความสัมพันธ์ของคนจำนวนมากในเวลานี้
ขั้นที่ 7
ทุกข้อที่กล่าวมา ย่อมทำได้ง่ายกว่า หากทำไปทีละขั้น และทุกอย่างจะเป็นไปได้ยาก หากลัดขั้นตอนไปทำสิ่งที่ยังไม่ถึงเวลา
ขั้นที่ 8
อย่านับหนึ่งที่คนอื่น แต่ให้นับหนึ่งที่ตนเอง เลิกความคิดที่ว่าจะตั้งหน้าตั้งตาหาคนดีมาเป็นคู่ครอง
ถ้าท่านต้องการคนดี มีเมตตา เสียสละ เห็นใจผู้อื่น ท่านก็จงเป็นคนแบบนั้นให้ได้ก่อน
ทุกวันนี้ใครๆ ก็อยากได้คนดีมาเป็นคู่ แต่น้อยคนนักที่ตั้งใจว่าฉันจะเป็นคนดี
คิดกันอย่างนี้แล้วเราหาคนดีที่ไหนมาเพียงพอจะเป็นคนรักของคนทั้งโลกได้
ขั้นที่ 9
การมีชีวิตคู่ การมีแฟน มีสามีภรรยานั้น เป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ท่านเลือกใครสักคนมาอยู่ร่วมชายคา
ท่านก็ได้ชื่อว่ามีชีวิตคู่แล้ว ทว่า ชีวิตคู่ที่งดงามนั้นไม่ใช่การมีชีวิตคู่ธรรมดาๆ มันต้องเป็นอะไรที่พิเศษมากกว่านั้น
เพราะมันเป็นของขวัญของการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของท่านและคู่รัก ของขวัญไม่ได้เกิดกันได้ง่ายๆ
ท่านจำเป็นต้องทำตนให้คู่ควรกับของขวัญนั้นด้วย ความงดงามของความรักจะแปรผันไปตามกิเลสในจิตใจของท่านเอง
ถ้าท่านเป็นผู้มีกิเลสมาก ความงดงามในชีวิตคู่น้อยท่านก็มีน้อย ถ้าท่านเป็นคนกิเลสน้อย ความงดงามในชีวิตคู่ของท่านก็มีมาก
ดังนั้นเมื่อท่านคิดจะมีความรักที่สวยงาม ท่านเองต้องเต็มใจที่จะพัฒนาจิตใจของตนเองให้มีความสวยงามด้วย
ขั้นที่ 10
พระพุทธเจ้าเคยตรัสเอาไว้ว่า “พระองค์รักพระเทวทัตเท่ากับที่รักพระราหุล” หมายความว่า
พระพุทธเจ้ารักคนที่คิดร้ายกับท่านเท่าเทียมกับที่ท่านรักลูกของท่าน
ความรักเช่นนี้เป็นความรักที่ประเสริฐ และน่าเอาเป็นแบบอย่าง
เป็นความรักที่มนุษย์ทุกคนสมควรตั้งปราถนาที่จะเดินไปให้ถึง
เพราะเมื่อถึงแล้วเราก็จะพบเจอแต่ปีติอิ่มเอม
ไม่ต้องทนทุกข์จากบาดแผลที่เกิดจากความรักปลอมๆ อีกต่อไป