คุณกำลังประมาทกับชีวิตหลังแต่งงานของคุณมากเกินไปหรือปล่าวคะ? คุณจะรู้สึกได้ไหมถ้าแฟนคุณกำลังมี ชู้รัก?
คุณรู้หรือไม่ว่าสถิติเกี่ยวกับชีวิตคู่แต่งงานในปัจจุบันพบว่า ร้อยละ 25 ของของคู่สามีหรือรรยา คบ ชู้รัก นอกบ้าน และมีเพศสัมพันธ์ด้วย และเพิ่มขึ้นอีก 20 เปอร์เซนต์ ของคู่สามีหรือภรรยา ที่คบ ชู้รัก โดยไม่มีเพศสัมพันธ์ (อาจจะแค่คุยกุ๊กกิ๊กกันผ่านช่องทางต่างๆ)
ความจริงคือปัจจุบันการแต่งงานเป็นเหมือนเครื่องยืนยันถึงความบริสุทธ์ในการที่จะคบหากันอย่างเปิดเผย แต่ในที่ลับหล่ะคะ?
จากผลการสำรวจโดยนักจิตวิทยา เค้าว่า35-45 เปอร์เซนต์มักจบด้วยการเลิกรากัน สำหรับคู่แต่งงานที่มีเรื่อง ชู้รัก นอกบ้านเข้ามา ซึ่งคุณเองก็คงไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับชีวิตคู่ที่คุณได้ลงทุนลงแรงสร้างความสัมพันธ์ผูกพันกันมาต้องพังลงด้วยบุคคลที่สาม วันนี้เรามีทฤษฎีจากนักจิตวิทยา ที่ได้จำแนกสาเหตุออกมา 4 เหตุผลที่อาจจะทำให้คู่ชีวิตของคุณเลือกจะไปหาความสุขนอกบ้าน เพื่อให้คุณมีข้อมูลในการป้องกัน และรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้โดยที่คุณไม่รู้ตัวค่ะ!
1.เมื่อเขาคิดว่าคุณไม่แคร์เขาแล้วอีกต่อไป
เมื่ออายุยิ่งมากขึ้นหน้าที่การงานก็เพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลาค่ะ บางครั้งธุรกิจอันรัดตัวหรือหน้าที่การงานอันยุ่งเหยิงอาจจะมีผลให้คู่ชีวิตของคุณรู้สึกน้อยอกน้อยใจ รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกให้ความสำคัญน้อยลง เช่นหากฝ่ายหญิงกำลังคลอดลูกและต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่สามีต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ จนฝ่ายหญิงเริ่มรู้สึกน้อยอกน้อยใจ นั่นหมายถึงชีวิตคู่ของคุณกำลังมีความเสี่ยงต่อการมีปัญหาอื่นๆ ตามมาค่ะ วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด เมื่อคุณพบว่าตัวเองเริ่มมีหน้าที่การงานที่มากเกินไป คือการจัดสรรเวลาให้เหมาะสมมากขึ้น คือการให้ความสำคัญกับเวลาครอบครัวเท่าเทียมกับสิ่งอื่นๆ ในหน้าที่คุณค่ะ หรือหากคุณไม่สามารถจะปลีกเวลามาให้ครอบครัวจริงๆ การพูดคุยจากแดนไกลด้วยเครื่องมือสื่อสารต่างๆ เท่าที่มีโอกาสก็เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณไม่ต้องขาดการติดต่อกับคู่ชีวิตและลูกๆ ค่ะ รับฟังปัญหาจากคู่ชีวิตของคุณ ถามไถ่ถึงเรื่องราวในแต่ละวัน ให้โอกาสเป็นผู้รับฟังเขาได้ปรับทุกข์ อย่าปล่อยละเลยจนทำให้เขารู้สึกว้าเหว่ ดูเหมือนคุณไม่แคร์ จนเขาต้องเอาความอึดอัดใจไประบายใส่คนอื่นค่ะ
2.คนในครอบครัวคุณเคยมีประวัติการนอกใจมาก่อน
ถ้าครอบครัวของฝ่ายใดหรือฝ่ายหนึ่งเคยมีเรื่องเกี่ยวกับการนอกใจ คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นกลุ่มเสี่ยงค่ะ ถ้าหากว่าคุณรู้ว่าคู่ชีวิตคุณมีครอบครัวที่มีประวัติการนอกใจ แนะนำให้ฉุกคิดและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ของเขามากขึ้นอีกนิดนึง แต่เดี่ยวก่อนค่ะ เราไม่ได้หมายความว่าห้ามคุณแต่งงานกับคนที่มาจากครอบครัวที่มีประวัตินอกใจนะคะ มันไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงของการนอกใจหรือการมี ชู้รัก ค่ะ การพูดคุยแชร์เรื่องราวในครอบครัวตัวเองให้กับคู่ชีวิตฟัง บางครั้งอาจจะช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้มากขึ้นค่ะ
3.เมื่อคุณคิดว่าไม่มีใครจับผิดคุณได้
สถิติแสดงให้เห็นว่า ร้อยละ 74 ของผู้ชายและ ร้อยละ 68 ของผู้หญิงที่ยอมรับว่าพวกเขาจะมีโอกาสนอกใจมากขึ้นเมื่อพวกเขามั่นใจว่าจะไม่มีใครจับผิดการกระทำของพวกเขาได้
โอกาสในการนอกใจมีมากขึ้นในยุคของเทคโนโลยีที่สามารถสื่อสารกันง่ายดายผ่านทาง email, สมาร์ทโฟน, อินเตอร์เนต นอกจากจะเลือกกิ๊กใหม่ง่ายเพียงนิ้วจิ้มอย่างกับเปิดแค็ตตาล็อคผ่านแอพพลิเคชั่น ยังสามารถพอกพูนสะสมกิ๊กได้จำนวนมากขึ้นทุกๆ วัน เมื่อคุณเริ่มรู้สึกดีๆ กับบุคคลที่สาม สมองจะสั่งการให้ตัวเองเริ่มกระทำการอย่างรอบคอบมากขึ้น ด้วยเครื่องมืออันสะดวกสบายและความระแวดระวังที่เพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง นั่นเพราะคุณเริ่มมั่นใจแล้วว่า ที่คุณทำอยู่ไม่มีใครจับคุณได้แน่นอน!
4.คุณไม่เคยสัมผัสการถูกหักหลังมาก่อน
ถ้าหากคุณไม่เคยพบเจอประสบการณ์แย่ๆ จากการโดนหักหลังโดยคนที่คุณไว้ใจ ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน และคุณไม่เคยได้รู้ว่าการจะเริ่มต้นเรียนรู้ที่จะไว้ใจใครสักอีกครั้งหนึ่งอีกมันยากขนาดไหน การนอกใจก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้กระทำคิดว่าเป็นเรื่องไม่ใหญ่โต แค่คุยแก้เหงา และเมื่อความรู้สึกของคุณกับบุคคลที่สามเริ่มบานปลาย ก็เกิดเป็นปัญหาชู้รัก และก็เมื่อทุกอย่างถูกเปิดโปง ชีวิตคู่ของคุณจบลงไม่สวยแน่นอนค่ะ
ฉะนั้นหากคุณคิดจะนอกใจใครสักคน อย่าลืมคิดถึงความรู้สึกตัวเองหากต้องเป็นผู้ถูกกระทำด้วยนะคะ หากยังต้องการรักษาความสัมพันธ์ของคุณและคู่รักไว้ อย่าคิดว่าเรื่องความรู้สึกเป็นเรื่องเล็กน้อย สำหรับใครบางคนมันอาจจะทำลายทั้งชีวิตของเขาและคนที่เสียใจอาจจะเป็นตัวคุณเองค่ะ