ชีวิตของคนเรานั้น ถ้าหากอยู่โดยปราศจากความรักแล้วก็คงจะมีความสุขได้ยาก เพราะใครๆ ต่างก็อยากได้ความรักมาหล่อเลี้ยงหัวใจ ที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยกับการใช้ชีวิตในทุกวันนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่คุณเข้าใจความรักได้อย่างถูกต้องแล้วจริงๆ หรือเปล่า หรือว่าความรักนั้นทำให้คุณนั้นเหน็ดเหนื่อยเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิมกันแน่ ลองมาเช็คแนวทางความรักที่คุณมีสักหน่อยเถอะว่ามันถูกต้องแล้วจริงๆ
7. ความรักไม่ใช่การเสียสละ
ความรักมีส่วนที่เราจะต้องเสียสละอยู่บ้างก็จริง แต่ก็ไม่ใช่การเสียสละที่มีมากจนเกินไป โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตของคุณ ความรักต้องไม่ทำให้ให้คุณสูญเสียอิสระและรูปแบบการใช้ชีวิตของตัวเองมากจนเกินไป และความรักควรเป็นการ Give and Take คือมีทั้งการให้และการรับ หากขาดสมดุลในจุดนี้ไป มีคนให้อยู่ฝ่ายเดียวตลอดและมีคนรับอยู่ฝ่ายเดียวตลอด ก็เป็นเรื่องยากที่จะประคับประคองความรักให้อยู่รอดตลอดไปได้ค่ะ
6. ความรักคือการอดทน
เมื่อคนสองคนมาอยู่ด้วยกันแล้ว สิ่งต้องเจอเลยคือความแตกต่าง หรือว่ามีความคิดและทัศนคติที่ไม่ตรงกัน ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยพอเปลี่ยนแปลงกันได้ก็คงไปต่อกันไหว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่มทำให้ความสัมพันธ์เป็นพิษขึ้นมาต้องใช้ความอดทน ไม่ว่าเป็นทุกข์แค่ไหนต้องทนให้ได้อยู่แบบนั้น นั่นไม่ใช่ความรักแล้ว เพราะอย่างน้อยๆ คนที่คุณลืมรักและให้ความสำคัญไปเลยก็คือตัวเอง ที่ไม่ควรจะมาอยู่สถานะแบบนี้เลยสักนิดนะ
5. ความรักไม่ใช่การมีแต่ความสุข
ใครๆ ก็ย่อมอยากได้ความรักที่มีความสุขด้วยกันทั้งนั้น แต่ในชีวิตจริงแล้วการที่เป็นคนรักกันคือ การต้องอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญความทุกข์ยากลำบากนี่แหละ ที่จะเป็นการพิสูจน์ถึงความรักที่มีต่อกันจริงๆ ว่าเป็นรักแท้แค่ไหน ถ้าเคยผ่านช่วงความทุกข์ระทมใจด้วยกันมาได้ จะเกิดความรักความผูกพันที่ยากจะตัดขาดจากกันได้ และมีโอกาสที่รักกันไปอย่างยาวนานเลยล่ะ
4. ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา
บางคนนั้นรักแฟนมากอยากที่จะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอด ไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไรก็ตาม มันไม่ใช่เป็นเพียงความรักแต่เป็นการยึดติดเสียมากกว่า ไม่ว่าจะรักกันสักแค่ไหน ควรจะต้องเว้นที่ว่างให้กันและกันเสมอ ไม่อย่างนั้นแล้วจะทำให้ต่างฝ่ายต่างอึดอัด เพราะไม่สามารถมีพื้นที่ส่วนตัวได้อีก อย่างน้อยก็ขอได้มีเวลาที่จะใช้ชีวิตส่วนตัวแบบตอนก่อนที่จะมีกันและกันสักหน่อยเถอะนะ ไม่อย่างนั้นแล้วบ่วงที่รัดแน่นมากเกินไปมีแต่จะทำให้อยากหนีไปจากกันเสียมากกว่านะ
3. แค่รักก็ชนะทุกอย่างแล้ว
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็คิดอยู่เสมอว่า ความรักจะทำให้ผ่านพ้นไปได้ทุกอย่าง แต่ในชีวิตจริงเรื่องราวของความรักมันไม่ได้มีเพียงแค่ความรักอย่างเดียวเท่านั้น ต้องประกอบด้วยความไว้ใจ เชื่อใจ เข้าใจกันด้วย รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ ความเหมาะสมทางสถานะสังคมอีก เพราะถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ล้วนแต่ทำให้ความรักมีปัญหาได้ทั้งนั้น เพราะความรักไม่ใช่เป็นเรื่องของเธอและฉันเท่านั้นด้วย คนรอบข้างมีผลกับความรักของคุณได้เช่นเดียวกัน แค่ครอบครัวไม่เห็นด้วยบางทีก็ถึงขั้นต้องจบความรักกันไปเลย แม้ว่าจะรักกันแค่ไหนก็ตาม
2. ฉันขาดเธอไม่ได้
บางคนพอมีความรักแล้วก็เหมือนจะอยู่คนเดียวไม่ได้ต่อไป ที่จริงแล้วการมีความรักต่างกับการอยู่เป็นโสดก็เพียงแค่จะมีใครคอยมาช่วยดูแลเรามากขึ้น โดยที่เราก็ยังคงต้องรอดูแลตัวเองอยู่ดี ไม่ใช่การฝากทั้งตัวและใจให้เขาดูแลจนกลายเป็นภาระของเขาขึ้นมา รวมทั้งรักนิรันดร์นั้นก็ไม่มีอยู่จริง ความไม่แน่นอนในความรักนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าไม่เลิกรากันก็อาจจะมีความตายที่มาพรากจากกันไปได้ ดังนั้นแล้วต้องเผื่อใจเอาไว้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นควรดูแลตัวเองให้ได้ และให้ความรักนั้นมาเติมเต็มให้ชีวิตสมบูรณ์ขึ้น ถึงจะเป็นความรักที่ควรมีมากกว่าค่ะ
1. ฉันต้องหาคนรักให้ได้
บางคนกลัวจะโดนสังคมมองว่าแปลกที่ไม่มีแฟน ไม่มีคู่ กลัวว่าตัวเองจะดูเป็นคนผิดปกติไป แม้ว่าจะมีชีวิตที่ดีและมีความสุขแค่ไหน แต่ก็มายึดเรื่องที่ไม่มีแฟน ไม่มีคนรักต้องพยายามหาให้ได้จนชีวิตไม่มีความสุขก็ไม่ดีเลยนะ คนเราจะโสดหรือมีคู่เราเลือกได้ทั้งนั้นว่าแบบไหนเหมาะกับชีวิตของเรา คนโสดเองก็มีความสุขในแบบของคนโสดได้ และคนที่มีคู่เองก็ไม่ใช่จะมีแต่ความสุขเพียงอย่างเดียวเสมอไป บางทีก็เหนื่อยกับการรักษาความสัมพันธ์ในฐานะของคนมีคู่ จนอดอิจฉาคนโสดที่มีอิสระเสรีไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นแล้วไม่ควรเอาเงื่อนไขนี้มาทำให้ต้องใช้ชีวิตไม่มีความสุขไปเลยนะ
หวังว่าคงจะทำให้ทุกๆ คน เข้าใจในเรื่องของความรักมากขึ้นนะคะ ว่าความรักที่ดีควรจะอยู่บนพื้นฐานของการใช้ชีวิตที่มีความสุขความพอดีด้วย รักไม่ใช่ทุกอย่างเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต ที่เราต้องเลือกรับเข้ามาไว้ในชีวิตได้อย่างเหมาะสม ถ้าเรานั้นเรื่องการใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขแล้ว ไม่ว่าเราจะเป็นโสดหรือมีความรักเราก็จะมีความสุขได้เสมอค่ะ
คิดว่าตัวเองเข้าใจมุมมองของความรักได้อย่างถูกต้องแล้วหรือยังคะ?