ทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ชีวิต และเป็นบทเรียนที่ดีในวันข้างหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับไม่ว่าจะอะไรที่เกิดขึ้นมาแล้วนั้นไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย เราต้องก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนั้นไปให้ได้ เพียงแค่บอกตัวเองว่า “ช่างมัน”
โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอนเลยสักอย่าง คนบางคนมีความสุขในทุกวันที่ตื่นเช้า เพราะมีความรักอยู่ในดวงตา แอบหันไปข้างๆ ก็เจอคนรักคอยยิ้มให้ หัวใจก็ค่อยๆ พองโต บางทีโลกของเราก็สวยจนเว่อร์ เมื่อคนเรามีความรัก แต่ถ้าวันหนึ่งความรักได้ทำการ “หักอก” เราอย่างไม่ไยดี วันนั้นเราคงอยากหลับตา…ไม่คิดจะตื่น ขาดกำลังใจในการทำสิ่งต่างๆ อย่างที่เคยทำหัวใจเริ่มเปราะบาง และค่อยๆ แฟบลงเรื่อยๆ
ความเศร้าทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง บวกกับวันเวลาที่มีแต่จะหมุนไปๆ ตามคอนเซ็ปต์ที่ไม่เคยรอใคร จากนั้นคนอกหักก็เริ่มคิดมากตั้งแต่วันแรกที่เขาจากไป ที่ผ่านมาเคยมีกัน 2 คน วันต่อไปจะเหลือเพียงเราคนเดียวที่ “ต้องอยู่” อย่างโดดเดี่ยวทั้งๆ ที่ไม่มีกำลังใจจะอยู่เลยก็ตาม
แต่เราต้องไม่ลืมว่า ไม่ว่าจะอย่างไรเราก็ต้องเดินต่อไป อดีตอาจทำร้ายหัวใจเราจน “เจ็บ” แบบที่คนในโลกนี้ไม่มีวันเข้าใจ และปัจจุบันเราอาจต้อง “ทนอยู่” กับความรู้สึกที่เปลี่ยวเหงาทั้งๆ ที่หมดแรงจะรับมือไหว แต่รู้ไหม ไม่ว่าอะไรจะหายไปจากชีวิตของเราก็ตามเราบอกตัวเองว่า “ช่างมัน” เราควรรู้สึกดีกับโลกใบนี้ ที่ยังมี “วันพรุ่งนี้” รอคอยเราอยู่เสมอ
อย่าให้เวลากับความโศกเศร้านานเกินไป หากจะจมอยู่กับความทุกข์เพราะรัก ก็ต้องเตือนตัวเองให้มีสติอยู่เสมอ อยากเศร้าก็เศร้าจนเต็มที่ หมั่นถามตัวเองว่าสะใจหรือยัง พอใจแล้วหรือยัง อย่าลืมเก็บและจำส่วนดีๆ ของความรักเอาไว้ด้วย เมื่อเจ็บปวดพอแล้ว เมื่อมันสมควรแก่เวลาแล้ว ก็พาตัวเองลุกขึ้นยืนอีกครั้ง…แล้วออกเดินทางกันต่อไป
คำปลอบประโลมจากใครๆ ที่เราฟังๆ มาอาจมีพลังไม่มากค่าเท่ากับแรงใจของตัวเราเอง หากจะเริ่มเข้มแข็ง…ก็ต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน ให้เวลาดำเนินไป…ให้ความปวดร้าวได้สอนประสบการณ์แก่เรา เพื่อจะได้เกิดการเรียนรู้ว่า “ที่ผ่านมา ความรักสอนอะไรบ้าง”
เก็บและจำช่วงเวลาที่ดีเอาไว้ เรื่องอกหักจะกลายเป็นเรื่องเล็กในไม่ช้า เราควรยิ้มให้กับความเข้มแข็งที่กำลังจะมาถึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งอย่างมั่นใจ ค่อยๆ ก้าว…แล้วหัวใจจะค่อยๆ แข็งแรงเอง