7 พฤติกรรม ของคนเจ้าชู้ ดูให้รู้จะได้ไม่ต้องเสียใจ
1.คนเจ้าชู้มักเป็นคนใจง่าย
เห็นใครหน้าตาดี หรือหุ่นเพอร์เฟกต์หน่อยไม่ได้ เป็นต้องถลาเข้าหา เผื่อฟลุกได้พูดคุยกับคนที่เค้าเหล่ด้วยยิ่งดี จะได้ชวนไปเที่ยวด้วยกันซะเลย ทว่า อีกฝ่ายจะเล่นด้วยรื้อ เพราะสมัยนี้มีคนวิกลจริต และโรคจิตยั้วเยี้ยในสังคมเต็มไปหมด ฉะนั้นถ้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เห็นทีคนเจ้าชู้อาจเป็นแค่สุนัขแหงนมองเครื่องบินก็ได้ เพราะยังไม่ทันคุ้นเคยหรือรู้จักมักจี่กันสักกะติ๊ด
แต่พี่แกเล่นจ้องเอ๊า จ้องเอา หรือปรี่เข้ามาหลีเลย ย่อมทำให้ฝ่ายถูกตื๊องงสิเพ่ และทันใดนั้นก็เริ่มคิดในใจว่า เอ๊ะควรคุยกับจอมหลีรายนี้ดีไหม? ถ้าขืนคุยด้วยเดี๋ยวเค้าไปตีความเข้าข้างตัวเองว่าเราชอบเค้าเหมือนกัน ก็ซวยสิ กระนั้นคนเจ้าชู้แบบกรุ้มกริ่มอยู่ในใจไม่เปิดเผยโจ่งแจ้งก็มีนะ รายนี้จะเอาแต่มองไว้ก่อน รอให้เหยื่อสบตากลับมาแล้วค่อยเข้าหา กะว่า ช้าๆได้พร้าเล่มงาม อู้ย…แต่ใครจะกล้าตกหลุมเนี่ย นอกจากคนเจ้าชู้รายนี้มีหน้าตาดึงดูดชวนใกล้ชิดก็ว่าไปอย่าง
2. คนเจ้าชู้ชอบทำให้คนอื่นเข้าใจว่า เค้าเป็นโสด
ทั้งที่อาจมีแฟนแล้วก็ได้ หรือถ้าเป็นโสดจริงๆ ก็จะแสดงออกในทำนองว่า พร้อมเสมอที่จะเป็นเพื่อนหรือกิ๊กก็ได้กับทุกๆคน ยกเว้น หากใครไม่ได้อยู่ในสเปกของคนเจ้าชู้ละก็ ไม่ อยากจี๋จ๋าด้วยหรอก เออแฮะช่างเลือกซะด้วย นะเอ็ง!
3. คนเจ้าชู้ มักสารภาพว่า ชอบคนที่เค้าสนใจ
แต่อย่าหวังจะได้ยินคำว่า อยากอยู่ด้วยตลอดไปเลยน้องเอ๋ย เพราะพวกไก่แจ้น่ะ ชอบง่าย หน่ายเร็ว ยิ่งถ้าเจอคนใหม่ๆก็ต้องไปเซ็กซ์เซอไซส์ เอ้ยโปรยเสน่ห์ต่ออีกแล้ว ทั้งที่บางคนก็ไม่รู้คิดได้ไงว่าตัวเองมีเสน่ห์… แปลกแท้ๆ ดังนั้น เรื่องไรเค้าจะผูกมัดด้วยการสัญญิงสัญญาล่ะ แต่หากคุณหลงคารมคนเจ้าชู้และรักเค้าตอบละก็
หยั่งงี้ไม่ถือว่า เค้าหลอกคุณนะ เพราะคุณโดนเค้าทำให้ตาบอดต่างหากล่ะ ไม่รู้ซะเลยรึว่า โลกของความรักหักเหลี่ยมโหดน่ะ ทำให้คนซื่อๆกลายเป็นคนเซ่อมาเยอะแล้ว ฉะนั้น เวลาจะเชื่อคำพูดของใครก็ควรศึกษากันและกันให้ดีซะก่อน จะปลอดภัยกว่า
4. คนเจ้าชู้สามารถตีซี้กับทุกคนได้ง่าย
เพราะความเป็นปลาไหลใส่สเกตของเค้าไง โอ้ย…คนเจ้าชู้นี่นะ เป็นคนที่มั่วเก่งแถมยังหน้าด้านมากๆซะด้วย เพราะคุณพี่เล่นลอยหน้าลอยตาทำเป็นคุยกับใครต่อใครได้อย่างหน้าตาเฉย แถมยังเนียนหลายๆ ฟังแล้วเหมือนเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีเหลือเกิน ซึ่งอาจเป็นพรแสวงหรือพรสวรรค์ของเค้าจริงๆก็ได้
แต่ความพยายามตีซี้กับใครเค้าก่อนน่ะ หากได้รับความเอ็นดูก็ดีไป เกรงจะไปสร้างความรำคาญให้คนอื่นซะมากกว่า งั้นเอางี้ดิ หัดมีกาลเทศะเข้าไว้แล้วคงจีบได้อีกหลายรายแหงๆเลย
5. คนเจ้าชู้มักเป็นขาประจำของงานปาร์ตี้
ไม่ว่าจะถูกชวนให้ไปร่วมงานนั้นด้วยหรือไม่ ก็ตาม เค้าก็สามารถเดินเข้าไปในงานได้อย่างไม่สะทก สะท้าน ขอเพียงงานนั้นมีคนที่เค้าสนใจก็พอ โอ้โห ได้มั่วเข้าไปกินฟรีแล้วยังได้หลีแขกในงานอีก ถือว่าได้กำไร 2 เด้งเชียวนะ แล้วจะโง่ไม่รีบฉวยโอกาสหยั่งงี้ไว้เรอะ
6. ถ้าคนเจ้าชู้มีรถ
เค้าจะรีบอาสาพาคนที่ชอบไปส่งถึงบ้านทันที หากได้รู้จักกับคนที่ชอบ แต่วันนั้น ว่าที่หวานใจ รายล่าสุดของเค้าต้องกลับบ้านที่พัทยาพอดี เชื่อดิเค้าจะเสนอตัวไปส่งให้ถึงหน้าบ้านเชียวล่ะ เพราะอยากเอาชนะใจไง ถึงได้ฮึดมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่อยากรู้จังแฮะ ว่าถ้าต้องไปเชียงใหม่ล่ะ พี่ท่านยังจะใจสู้อยู่อ่ะป่าว?
7. คนเจ้าชู้เชื่อว่า สิ่งที่เค้าทำไปนั้นเป็นกำไรชีวิต ไม่ใช่ขาดทุนนะยะ
ไม่ถือว่ากำไรได้ไง ในเมื่อได้รู้จักกับผู้คนตั้งมากมาย แถมยังได้ “ปากว่า มือถึง” แตะอั๋งใครต่อใครฟรีๆ ซะด้วย เท่าเนี้ยเค้าก็เชื่อว่าไม่เสียชาติเกิดแล้วล่ะ…แต่เอ โลกนี้ก็แสนประหลาด เพราะบางคนมีบุคลิกเข้าข่ายเจ้าชู้ แต่ที่จริงไม่ได้เจ้าชู้สักหน่อยก็มี เพราะพวกเจ้าชู้น่ะ จะมีคุณสมบัติอีกอย่างที่โดดเด่นจนจับไต๋ได้ก็คือ
อยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนที่เค้าเข้าไปขายขนมจีบด้วยน่ะซี ซึ่งหากขนมจีบของเค้าขายออกก็ย่อมหน้าบานเป็นจานกระด้ง แต่ถ้าถูกด่ากลับมาหรือไล่ให้ไปจีบคนอื่นแทน เค้าก็ไม่รู้สึกเสียหน้าหรอก เพราะหน้าเค้าน่ะฉาบซีเมนต์เอาไว้จนหนาเตอะ แค่นี้ไม่ทำให้หน้าแหกร้อก เพราะชินซะแล้ว แต่ถ้าให้หยุดกิจกรรม “ทอดสะพาน” สิ จะหงุดหงิด งุ่นง่านขึ้นมาทันที แหมเจ้าชู้มาตั้งแต่เกิด ก็เลิกยากหยั่งงี้แหละ