มีผู้คนมากมายเชื่อกันว่า การมีรักครั้งใหม่จะช่วยเยียวยาจิตใจที่บาดเจ็บจากการยุติความสัมพันธ์ครั้งก่อนได้ แต่นักจิตวิทยากล่าวไว้ว่า จะมีรักครั้งใหม่ได้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ให้เวลากับมันแล้วจะเป็นไปเอง
เนื่องจากแผลยังสดอยู่ การจะให้ปุบปับไปมีคนใหม่เลยมันก็ใช่ที่ เพราะไม่อย่างนั้นทั้งเราและความรักครั้งใหม่จะไปกันไม่รอดอีกตามเคย เรายังรู้สึกเจ็บกับรักครั้งเก่าอยู่ ทำให้เรามองรักครั้งใหม่เป็นแค่เครื่องเยียวยาจิตใจ ไม่ได้รักจริงๆ วันนี้เราได้รวบรวม 8 สัญญาณบ่งบอกว่าคุณพร้อมที่จะมีรักใหม่แล้วมาให้ชมกัน พร้อมแล้วที่ว่าคือพร้อมจริงๆ นะ ลองเลื่อนไปชมและสำรวจตัวเองกันได้
1. นึกถึงอดีตแล้วไม่ได้รู้สึกเศร้าแต่อย่างใด
คุณไม่รู้สึกกลัวตัวสั่นเวลาเจอแฟนเก่า ไม่ว่าจะเจอตัวเป็นๆหรือข้อความที่ทักมา ถ้าคุณไม่รู้สึกวิตกกังวลหรือโกรธเกรี้ยวเวลาเจอเขาแล้วล่ะก็ นั่นล่ะสัญญาณอันดี เมื่อสิ่งเหล่านั้นหายไปแล้ว คุณจะมองอดีตที่ผ่านมาไปอีกแบบหนึ่ง คือมีแต่ความอบอุ่นหัวใจ เพราะไม่ใช่ว่าเรื่องราวในอดีตมันจะมีแต่ความทุกข์ใจเสมอไป มันยังมีเรื่องราวดีๆมากมายรวมอยู่ด้วย ถ้าคุณเริ่มมองถึงแต่เรื่องราวดีๆที่มีให้กันเมื่อครั้งอดีต นั่นแหละคุณพร้อมแล้วที่จะเดินต่อไป
(Photo credit: The Notebook/New Line Cinema)
2. ไม่หวาดกลัวที่จะอยู่คนเดียว
คุณเริ่มรู้สึกโอเคกับการอยู่คนเดียวมากขึ้น ไม่มัวนั่งจ่อมอยู่กับบ้านรอคอยความรักมาเสิร์ฟถึงที่ คุณจะออกไปหามันเองด้วยตัวคนเดียว และคุณจะเริ่มไม่อยากมาคอยเช็คโทรศัพท์ว่ามีข้อความจากแฟนเก่าคุณเด้งขึ้นมาหรือเปล่า คุณจะทดแทนมันด้วยการหาอย่างอื่นหรือกิจกรรมที่ตัวเองสนใจทำแทน
(Photo credit: Revolutionary Road/White Hot Productions, The Dressmaker/DreamWorks Pictures)
3. เริ่มกลับไปหาเพื่อนฝูง และทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
เวลาคุณมีแฟน คุณจะเริ่มซึบซับสิ่งต่างๆที่ทำร่วมกับแฟนของคุณอย่างไม่รู้ตัว และหลังจากเลิกรากันไป ไอ้สิ่งที่ทำร่วมกันนั้นยังคงอยู่ในตัวคุณ เช่นคุณไม่เคยรู้สึกชอบพายเรือคายัคเลย แต่พอมีแฟนและพากันไปพายเรือ เมื่อถึงเวลาต้องจากกัน พอคุณมองย้อนไปถึงตอนที่คุณพายเรือกับเขา ถ้าคุณรู้สึกมีความสุขขึ้นมา เมื่อนั้นแหละหัวใจของคุณเริ่มเข้มแข็งขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้คุณจะเริ่มรู้สึกคิดถึงเพื่อนๆ อยากชวนกันไปเที่ยวให้มันส์สะใจ ไม่ใช่เพราะคุณอยากให้เพื่อนมาปลอบใจ แต่เป็นเพราะคุณอยากเที่ยวกับเพื่อนจริงๆ
(Photo credit: Friends/Warner Bros.Television)
“สายฟ้า-พายุ” รีวิวขนมใส่ไส้ อินเตอร์แค่ไหนก็แพ้ขนมไทยครับ!
Ads by Yengo
4. นอกจากพร้อมจะมีความรักครั้งใหม่แล้ว คุณยังพร้อมที่จะมอบความรักให้คนอื่นด้วย
ในช่วงที่คุณยังไม่มีใคร ช่วงนี้จะเป็นโอกาสให้คุณได้กักตุนพลังงานด้านบวก และความเมตตาเห็นอกเห็นใจไว้ได้มากขึ้น และเมื่อถึงจุดที่คุณรู้สึกว่า เฮ้ย! ไม่ได้มีฉันคนเดียวบนโลกนี่นา ที่ต้องการความรักความห่วงใย ฉันควรจะมอบความรักของฉันให้คนอื่นบ้าง จุดนี้แหละคือสัญญาณที่คุณพร้อมจะมีรักครั้งใหม่แล้ว
(Photo credit: Harry Potter and the Deathly Hallows/Heyday Films)
5. รู้สึกสงบมากขึ้นเมื่อเห็นคนอื่นรักกัน
จากที่คุณไม่อยากรับรู้เรื่องความรักอีก กลายมาเป็นคุณเริ่มอยากหาเรื่องรักๆมาใส่ตัวมากขึ้น และจะรู้สึกยินดีมากเมื่อได้ข่าวว่าเพื่อนของคุณกำลังจะแต่งงาน คุณจะไม่รู้สึกเศร้า หรือโมโหเมื่อเห็นคนรอบข้างอินเลิฟ กลับกันคุณจะรู้สึกดีใจเสียด้วยซ้ำ ที่พวกเขาพบเจอกับความรักที่ดี และคุณจะเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่า ไอ้ความสุขที่เพื่อนของคุณมีอยู่ตอนนี้ คุณจะได้เจอกับมันอีกแน่นอน
(Photo credit: Legally Blonde/MGM)
6. อยากไปออกเดท
หลังจากทัศนคติเรื่องความรักของคุณดีขึ้น คุณจะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองโอเคขึ้น จนอยากจะออกเดทกับใครสักคนเพื่อตามหารักครั้งใหม่ คุณพร้อมจะศึกษาดูใจกับคนใหม่ และยอมให้เข้ามาในชีวิตของคุณมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาคุณทำใจกับรักครั้งเก่าได้แล้ว
(Photo credit: Sex and the City/Darren Star Productions)
ใช้สายตาเยอะ จนตาปวดล้า ให้ Rainy Eyecare ดูแลด่วน
Ads by Yengo
7. เริ่มกล้าที่จะปฏิเสธมากขึ้น
ช่วงที่คุณอยู่คนเดียวนั้น คุณจะเริ่มมีความคิดอยากวางเส้นแบ่งเขตแดนเพื่อควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอง ถ้าคุณไม่โอเคกับบางสิ่งบางอย่างในตัวคู่เดทของคุณ คุณจะกล้าบอกปฏิเสธได้ง่ายขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนกระดากปากมากที่จะพูด ถ้าจะให้ง่ายขึ้น คุณควรลิสต์คุณสมบัติคู่เดทที่คุณต้องการใส่สมุดโน้ตสักเล่ม ถ้าไล่ดูแล้วเขาไม่เข้าแก็ป คุณก็เซย์กู๊ดบายได้เลย
(Photo credit: Bridget Jones”s Diary/Working Title Films, Bridget Jones”s Diary/StudioCanal)
8. พร้อมที่จะประนีประนอมในทุกสถานการณ์
แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าเส้นแบ่งเขตของคุณจะเข้มงวดขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือคุณต้องมีความพร้อมในการประนีประนอมด้วยเช่นกัน เมื่อเจออะไรที่คุณไม่ชอบในทีแรก คุณจะยังไม่ฟันธงเสียทีเดียวว่าเขาเป็นคนอย่างนั้น คุณพร้อมจะจับเข่าคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เพื่อให้ความสัมพันธ์ครั้งใหม่มันไปกันรอด ตัวอย่างเช่น คุณพร้อมจะปรับปรุงส่วนที่แย่ในตัวเอง เพื่อให้ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ไม่ล่มกลางทาง ยึดถือความเห็นตัวเอง และต้องรับฟังความเห็นคนอื่นด้วยเช่นกัน
(Photo credit: Vicky Cristina Barcelona/Woody Allen)