จากตอนแรกที่ต่างคนต่างเป็นพ่อเทพบุตร และแม่เทพที่ดาป้อนรักให้กันมากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้คลุกคลีอยุ่ด้วยกันทุกวันก็ได้เห็นตัวตนกันและกันมากขึ้น หากคู่ไหนรับกับตัวตนที่แท้จริงของหวานใจได้ก็ย่อมประคองความรักให้ยืนยาวต่อไปได้ ตรงข้ามหากคู่ไหน “รับกันไม่ได้” แถมไปติดอกติดใจ “คนใหม่” ด้วยละก็ ไม่ต้องเป็นหมอฟันธงก็รู้ว่าคู่หลังนั้นอีกไม่นานคงได้แยกทางกันแหงๆ วันนี้เราจึงมี 5 สัญญาณมีทิปดีๆ ที่บอกเป็นนัยๆว่า ควรคบกันต่อไปหรืออย่าคบให้เสียฟิลลิ่ง เช่น …….
1. รู้สึกว่าถูกข่มเหงหรือไม่ได้รับการใส่ใจ
หากคุณรู้กำลังรู้สึกว่าไม่ได้รับความเคารพ การใส่ใจ และถูกมองข้ามคุณค่าในตัวคุณ รวมถึงเขาไม่เคยพูดอะไรที่ถูกหูคุณเลย เราก็แนะนำว่าคุณควรจะเดินออกจากความสัมพันธ์นั้นซะ เพราะหากเลือกที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้วคู่รักแต่ละคู่ก็ควรที่จะเติมเต็มความรักและความสบายใจให้กัน การข่มเหงทางด้านอารมณ์และทางกาย ถือเป็นสิ่งไม่ควรกระทำและควรจะต้องเดินออกจากความสัมพันธ์ทันที เราไม่จำเป็นต้องทนทรมานอยู่กับคนที่ไม่คู่ควรไปตลอดชีวิตหรอกค่ะ
2. เมื่อความรักมันลดน้อยลง
เมื่อคุณยกใจทั้งดวงให้กับคนที่ไมได้รักคุณร้อยเปอร์เซ็นต์อีกต่อไป บอกเลยว่าคุณไม่มีวันได้ใจส่วนนั้นกลับคืนมาอย่างแน่นอน เพราะเมื่อความรักของเขาน้อยลงแล้วก็เป็นสัญญาณแล้วว่าเขาขาดความสนใจในตัวคุณ เขาเคารพหรือแคร์คุณน้อยลงและอาจทำให้มีปัญหามือที่สามเข้ามาซึ่งมันก็ยากที่จะกอบกู้หรือเดินหน้าต่อในความสัมพันธ์ ถ้ามาตรวัดความรักมันตกลงแบบนี้คุณก็ปล่อยให้เขาออกไปจากชีวิตของคุณเงียบๆ เถอะ เพราะการปล่อยไปย่อมดีกว่าการรั้งเอาไว้อย่างแน่นอน
3. ความเชื่อใจถูกทำลาย
ความเชื่อใจถือเป็นพื้นฐานที่ช่วยยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์ แต่ถ้าเมื่อใดที่คุณรู้สึกได้ว่าความเชื่อใจได้ถูกทำลายลงให้คุณยุติความสัมพันธ์นั้นได้โดยไม่ต้องลังเลใจ เพราะชีวิตคู่มันควรจะคบกันด้วยความสบายใจไม่ใช่หรอ ถ้ามีคู่แล้วทุกข์กลับไปอยู่แบบโสดๆ แต่แฮปปี้ดีกว่าไหม? คุณเลือกได้นะ!
4. ไม่ได้รู้สึก สบาย สบาย เวลาอยู่ด้วยกัน
หากคบกับเขาแล้วทำให้คุณต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นอีกคน “ที่เขาชอบ” ซึ่ง “คนที่เขาชอบนี้W เป็นคนที่คุณสร้างขึ้นมาเพื่อให้เขาประทับใจ หากมองด้านนึงมันก็ดีใช่ป่ะ ที่คุณทำให้เขามาชอบและมารู้จักกับคุณได้สำเร็จ แต่การแกล้งเป็น “คนที่ไม่ใช่คุณอย่างแท้จริง” จะทำได้นานแค่ไหนเชียว ยิ่งไปกว่านั้นถ้ามีแฟนแล้วรู้สึกอึดอัด รู้สึกเศร้าสร้อยตลอดเวลา นั่นแสดงว่าความสัมพันธ์นั้นมันไม่โอเคสำหรับคุณนะ จงรีบเดินจากมันออกมาเสียโดยไวเถอะ
5. ทำร้ายร่างกาย หรือพูดจาทำร้ายจิตใจ
การทะเลาะที่ยอมและให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด คือ การลงมือทำร้ายร่างกาย ตบตีกันนี่แหละ ถ้าเมื่อไหร่ที่การทะเลาะกันของคุณจบด้วยการทำร้ายร่างกายกัน เมื่อนั้นทางออกก็เหลือทางเดียวคือ ต้องเลิกกันเท่านั้น เพราะขืนทนอยู่ต่อไปเราอาจจะไม่ได้เจ็บตัว หรือเจ็บใจแค่นี้ก็ได้ ความรุนแรงมันอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมันไม่คุ้มกันหรอกค่ะ