นักวิจัยอังกฤษ เผยคำตอบที่น่าสนใจว่าทำไมผู้ชายชอบทำตัวห่างเหินต่อแฟนสาวเป็นประจำ
คงมีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่มักมีปัญหากับแฟนสาวของตัวเอง เกี่ยวกับพฤติกรรมของหนุ่มๆ ที่มักเฉยชาและทำตัวห่างเหินกับเธอ จนทำให้ฝ่ายหญิงคิดไปเองอยู่บ่อยๆ ว่า เฮ้ย ! แอบมีหญิงอื่นหรือเปล่า ? ทำไมถึงดูมีโลกส่วนตัวที่เธอเข้าไม่ถึง…
ก่อนที่สาวๆ จะคิดอะไรเลยเถิดไปไกลจนอาจทำให้ความรักพังไม่เป็นท่าเอาได้ เอาเป็นว่าเรามีผลการสำรวจชิ้นหนึ่ง ที่มีการทำแบบสอบถามเกี่ยวกับมุมมองด้านความรัก จนได้คำตอบที่หลายคนสงสัยว่าเหตุใดผู้ชายส่วนใหญ่จึงมักทำตัวห่างเหินกับคนรัก
การสำรวจในครั้งนี้จัดทำโดยทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งให้กลุ่มตัวอย่างทั้งผู้ชายและผู้หญิงจำนวน 341 คน ตอบแบบสอบถามทางจิตวิทยาเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับคู่รักของตน
ทาง ดร.แอนนา มาชิน หนึ่งในทีมนักวิจัย เผยผลของการสำรวจดังกล่าวว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่คิดว่าคนที่เป็นแฟนกัน เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว ต้องแชร์ทุกอย่างร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายในชีวิตและความเชื่อ รวมถึงการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ นอกจากนี้ ฝ่ายหญิงยังยึดเอาความสัมพันธ์เป็นความสำเร็จและความสุขในชีวิตด้วย
ในขณะที่ผู้ชายมีมุมมองที่แตกต่างจากผู้หญิงว่าการเป็นแฟนกัน ไม่จำเป็นต้องแชร์กันทุกเรื่อง ซึ่งฝ่ายชายจะไม่ยึดถือว่าความสัมพันธ์คือทุกสิ่งในชีวิตเหมือนผู้หญิง นั่นเท่ากับว่าผู้ชายจะรักษาระยะห่างความสัมพันธ์ไว้เท่าเดิม ไม่ว่าจะคบกันมานานแค่ไหนก็ตาม แต่ผู้หญิงเป็นฝ่ายที่ต้องการลดระยะห่างให้ใกล้กว่าเดิม จึงมักรู้สึกไปเองว่าแฟนหนุ่มชอบทำตัวห่างเหิน
ทั้งนี้ ดร.แอนนา ชี้ว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายที่ให้ความสำคัญในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างที่คบกันมากกว่า ส่วนฝ่ายชายจะรักษาพื้นที่ชีวิตส่วนตัวไว้ เพราะต้องการมองหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ เพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ จนกลายเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคู่รักได้
อย่างไรก็แล้วแต่ แม้มุมมองของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะแตกต่างกัน ทว่าสุดท้ายแล้ว หากคนสองคนพยายามทำความเข้าใจและยอมรับในความคิดของกันและกันได้ เชื่อว่าความสัมพันธ์ก็ยังดำเนินไปด้วยความราบรื่นได้อยู่ดีแหละครับ