สาวโสด สบายใจได้ นักวิชาการชี้ผู้หญิง อายุ 30 แล้วยังโสดไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมีผลการวิจัยออกมาว่าเป็นกันทั่วโลก เนื่องจากสาวๆ หลายคนมักให้ความสำคัญกับการประสบความสำเร็จทั้งในด้านการศึกษา และหน้าที่การงานก่อนคิดสร้างครอบครัวนั่นเอง
ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากโสดหรอกจริงไหม ? แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อคนที่ใช่เขาก็ไม่รัก ส่วนคนที่เข้ามาก็ยังไม่ใช่สำหรับเรา เลือกไปเลือกมาจนอายุปาไป 30 แล้วก็ยังไม่มีคู่ชีวิต บางคนถึงกลับถอดใจเตรียมตัวขึ้นคานแล้วก็มี แต่รู้หรือไม่ ? ว่าสาวโสดวัยเลข 3 ทั่วโลกนั้นก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ใช่ว่ามีแต่คุณคนเดียวซะที่ไหน
จากผลการสำรวจพบว่าประเทศอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีผู้หญิงโสดเพียง 2% ในช่วงอายุ 40 ปี ด้วยเหตุนี้นักวิจัย Nancy Smith-Hefner รองศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยาที่มหาวิทยาลัยบอสตัน จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากนักศึกษามหาวิทยาลัยในเมืองยอกยาการ์ตา และได้รับคำตอบว่า พวกเขาต้องการเรียนให้จบและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเสียก่อนจึงจะคิดเรื่องแต่งงาน ซึ่งความคิดเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวอินโดนีเซียเท่านั้น ยังครอบคลุมตั้งแต่ปารีส รวันดา ไปจนถึงญี่ปุ่น โดยสภาวะเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า Waithood หรือปรากฏการณ์การรอ ในที่นี้หมายถึงรอให้ตนเองประสบความสำเร็จและพร้อมเสียก่อนจึงจะเริ่มคิดสร้างครอบครัว เพราะพวกเขาเชื่อว่าความรักมาพร้อมความเครียด ผิดหวัง และความกังวลเสมอ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นอุปสรรคทำให้เขาไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้
โดยบทความของ Diane Singerman นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอเมริกัน กรุงวอชิงตันดีซี เผยผลสำรวจจากกลุ่มวัยรุ่นชาวตะวันออกกลางพบว่า การแต่งงานมีค่าใช้ค่าสูงเกินไปสำหรับวัยหนุ่มสาวที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว อีกทั้งการมีลูกก่อนแต่งงานสังคมก็ไม่ค่อยยอมรับสักเท่าไร นี่จึงเป็นเหตุผลให้พวกเขาตัดสินใจชะลอการแต่งงานและอยู่เป็นโสดมากขึ้น
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์การรอคือผู้หญิงมีความกดดันมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้ชายสามารถแต่งงานและมีลูกตอนอายุมากได้โดยไม่มีปัญหา แต่ในทางกลับกันเมื่อผู้หญิงมีอายุมากก็จะมีลูกยากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งยังมีบรรทัดฐานที่ยอมรับกัน โดยทั่วไปว่าผู้หญิงจะต้องแต่งงานกับผู้ชายที่มีการศึกษาและประสบความสำเร็จมากกว่าตนเอง เพื่อเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งเป็นแนวคิดสมัยเก่าที่ไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ยังมีผลการสำรวจอีกชิ้นที่พบว่าร้อยละ 15 ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันหันมาใช้แอปพลิเคชันออกเดทกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหา แต่นักวิชาการกล่าวว่าทางออกที่ดี และยั่งยืนที่สุดคือการเปลี่ยนความคิดที่ว่าผู้ชายต้องเป็นผู้นำครอบครัวเท่านั้น เพราะในปัจจุบันไม่เพียงแค่ผู้หญิงและผู้ชายมีความเท่าเทียมกัน แต่ยังมีผู้หญิงเก่งๆ อีกมากมายที่พร้อมจะเป็นหัวหน้าครอบครัว และแน่นอนว่าพวกเธอไม่จำเป็นต้องรอเพื่อเลือกผู้ชายที่ประสบความสำเร็จมากกว่ามาเป็นคู่ชีวิต
ได้รู้แบบนี้แล้ว เชื่อว่าสาวโสดหลายคนน่าจะเริ่มสบายใจขึ้นมาหน่อย เพราะนอกจากความโสดจะไม่น่ากลัวอย่างที่คิดแล้ว ยังมีเพื่อนอยู่บนคานอีกทั่วโลก ! ที่สำคัญรอให้พร้อมแล้วค่อยสร้างครอบครัว อาจจะดีกว่าคบๆ เลิกๆ แล้วต้องมานั่งทุกข์ใจภายหลังก็ได้