ช่วงอายุ 30 ปี ถือได้ว่าเดินทางมาครึ่งหนึ่งของชีวิต เป็นวัยที่ต้องการความมั่นคง เริ่มคิดวางแผน วางแพลนในชีวิต บ้างก็ต้องการสร้างครอบครัว บ้างก็ต้องการความก้าวหน้าในชีวิตสนุกกับการทำงาน บ้างก็ไปเรียนต่อ มุ่งหาประสบการณ์ต่อยังไม่อยากหยุดที่จะเรียนรู้ แต่ก็เรียกได้ว่าในวัยนี้มีประสบการณ์ที่สั่งสมมาพอสมควรจากช่วงวัยใสวัยรุ่น และในเรื่องของความรัก เมื่อเดินทางมาถึงครึ่งหนึ่งของชีวิตมุมมองและแง่ง่ามความคิดที่ตกตะกอนได้ในเรื่องของความสัมพันธ์นั้นก็มองเปลี่ยนไป
ข้อคิดเกี่ยวกับความรัก ที่คนวัย 30 มองเปลี่ยนไป
วัยรุ่น: หน้าตาเป็นอันดับแรกที่ดึงดูดความสนใจ
ในวัย 30 : หน้าตาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หรือบางคนอาจจะไม่ได้สนแล้วหน้าตา แต่จะคำนึงถึงความมั่นคง อาชีพการงาน ก่อนมากกว่า
วัยรุ่น: รักด้วยความเสน่หา รูปลักษณ์ คาดหวังให้เป็นอย่างที่ใจเราต้องการ
ในวัย 30 : รักด้วยความเข้าใจ เข้าใจความเป็นตัวตนของเขา และของตัวเราเอง
วัยรุ่น: รู้สึกอย่างไร ไม่กล้าบอกออกไปตรงๆ กลัวรับคำตอบไม่ได้ กลัวการเสียใจ
ในวัย 30 : มีวิธีที่จะพูด ยอมรับผลที่จะตามมา และรู้จักวิธีตั้งรับกับผลที่จะเกิดขึ้น
วัยรุ่น: เมื่อห่างไกล คิดถึง ว้าวุ่น ทรมานใจ คิดว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ทำไมไม่เป็นแบบที่ใจต้องการ
ในวัย 30: เมื่อห่างไกล คิดถึงแบบมีเหตุมีผล รู้และเข้าใจว่าแต่ละคนมีหน้าที่ของตนเอง
วัยรุ่น: มีโมเมนท์มุ้งมิ้ง ทำตัวงอแง โทรมาบอกรักในหนึ่งวันหลายครั้ง ไลน์หากันแทบจะทุกๆ สิบนาที โทรหาก่อนนอน บอกกู๊ดไนท์ สวีทดรีม
ในวัย 30: รู้สึกไม่โอเคถ้าคนรักจะต้องมานั่งคาดคั้น ให้โทรหาเวลานั้นเวลานี้ อยากอยู่ด้วยกับคนที่ให้ความรู้สึกสบายใจ อารมณ์มุ้งมิ้งจะน้อยลงมาก เพราะในวัยนี้ด้วยความที่โตขึ้นจะรักกันแบบมีเหตุมีผล ถ้ามีอะไรที่ต้องทำก็จะทำหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ดีก่อน
วัยรุ่น: ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ทะเลาะมีปัญหาต่างฝ่ายอยากเอาชนะ ต่างคิดว่าตัวเองถูก
ในวัย 30: มีประสบการณ์จากที่ผ่านมา และเห็นว่าไม่ได้มีอะไรดีขึ้นถ้าทะเลาะกันแล้วต่างฝ่ายต่างคิดว่าจะชนะ เอาชนะอารมณ์ได้มากขึ้น และมีสติเวลามีปัญหา
วัยรุ่น: สนใจแต่แฟน และตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
ในวัย 30: นอกจากจะสนใจแฟนแล้ว ยังสนใจห่วงใยคิดถึงครอบครัวแฟน และคนรอบข้างมากขึ้น