การประคับประคองความรักอย่างคนทั่วไปว่ายากแล้ว หากใครที่มีคนรักกำลังป่วยด้วยโรคซึมเศร้ายิ่งยากกว่า เป็นภัยเงียบที่คุณไม่อาจรู้เลยว่ามันจะแสดงอาการขึ้นมาเมื่อไหร่ หลายคนไม่รู้วิธีรับมือ หลายคนยอมถอดใจ แต่ถ้าคุณยังรักเขามากพอ และอยากช่วยให้ได้คนรักคนเดิมของคุณกลับคืนมา วันนี้ GangBeauty จะมาบอก 6 วิธีรักษาความสัมพันธ์ ถ้าแฟนคุณป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ให้ได้รู้กัน ตามไปดูพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
1. ดูแลสุขภาพตัวเอง
ก่อนจะไปดูแลสุขภาพของใคร คุณต้องมั่นใจก่อนว่าคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงเพียงพอ ทั้งสุขภาพกาย รวมถึงสุขภาพจิตใจ เพื่อที่จะได้ดูแลคนที่คุณรักได้อย่างเต็มที่
2. ทำความเข้าใจโรคซึมเศร้า
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า โรคซึมเศร้ามันคือโรค ไม่สามารถหายได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง รวมไปถึงกำลังใจจากคนใกล้ตัวผู้ป่วยด้วย ถ้าคุณมีคนรักป่วยด้วยโรคนี้ คุณคือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญ ที่จะช่วยให้เขาหรือเธอกลับมาเป็นปกติได้ ดังนั้น ควรศึกษาเพื่อให้เข้าใจอาการของโรค และวิธีปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง แล้วคุณจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง
3. เพิ่มความช่างสังเกต
ถ้ามีคนรัก หรือคนใกล้ตัวป่วยด้วยโรคซึมเศร้า คุณต้องเพิ่มนิสัยความเป็นคนช่างสังเกต เพื่อจะได้รับรู้ถึงความผิดปกติและรับมือได้ทัน เพราะโรคซึมเศร้าไม่ใช่หวัด อาจไม่แสดงอาการให้เห็นชัดเจน ไม่ได้ไอ ไม่ได้ตัวร้อน แต่อาจเป็นแค่เขาดูเงียบกว่าปกติ นอนน้อยหรือนอนมากจนเกินไป รวมถึงสังเกตว่าเขากินยา และปฏิบัติตัวตรงตามที่เเพทย์บอกหรือเปล่า อาจจะฟังดูเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าอยากให้คนที่คุณรักอยู่กับคุณไปนานๆ อดทนหน่อยนะคะ
4. อภัยในความเกรี้ยวกราด
ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า มักจะมีภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ โดยผู้ป่วยเองอาจจะไม่รู้ตัว ไม่ได้ตั้งใจ หรือเผลอทำลงไปโดยควบคุมไม่ได้ ผู้ที่ดูแลใกล้ชิดควรเป็นคนใจเย็น มีความอดทนต่อสิ่งเร้า ทั้งอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดในบางครั้ง หรือมีความอ่อนแอที่คุณไม่เข้าใจ ให้อภัยในสิ่งที่เขาหรือเธออาจทำไม่ถูกใจของคุณบ้าง เพราะถ้าต่างฝ่ายต่างใช้อารมณ์ก็จะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่กว่าเดิม
5. เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ฟัง
ในบางครั้งผู้เป็นโรคซึมเศร้าก็แค่ต้องการจะระบาย ต้องกายคนรับฟัง คุณอาจไม่จำเป็นต้องเข้าใจ ไม่ต้องแสดงความคิดเห็น หรือคิดหาทางออกใดๆให้ แค่เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีก็เพียงพอแล้ว
6. หากิจกรรมทำร่วมกัน
ลองชวนกันไปทำกิจกรรมสนุกๆ ออกกำลังกาย ใกล้ชิดธรรมชาติ หรือกิจกรรมที่เขาอยากทำ ดีกว่าการเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรสังเกตท่าทีของเขาหรือเธอด้วยว่า อยากไปหรือเปล่า เพราะไม่อย่างนั้นจากความสุขจะเปลี่ยนเป็นความทุกข์แทน
ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยหายไวๆ และเป็นกำลังใจให้คนรอบข้างด้วยนะคะ สู้ๆแล้วผ่านมันไปด้วยกันให้ได้ค่ะ