จะมีแฟนกับเขาเป็นตัวเป็นตนสักหนึ่งคนมันแสนยากเย็นค่ะซิส กว่าจะเจอคนที่ใช่ กว่าจะรวบรวมความกล้าเข้าไปทัก เข้าไปคุยกับเขา แต่พอคุยๆ ไปสักพัก อยู่ๆ จะไปถามประโยคสุดเบสิคว่า “ตัวเองๆ มีแฟนหรือยัง” ก็ดูจะเผยไต๋เกินไปหน่อยว่าเราอยากได้เขาจนตัวสั่น แต่ถ้าไม่ถามเอาซะเลยแล้วมารู้ทีหลังว่าเขามีแฟนแล้ว ก็อาจจะแห้วทั้งที่ทุ่มเทพลังงานไปแล้วเต็มพิกัด ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียแรงฟรี ลองใช้ 5 ประโยคนี้ไปชวนคุย เพื่อเป็นการลองเช็คเขาดูว่าเขามีแฟนแล้วหรือยัง ? เลือกใช้ได้ตามสถานการณ์เลยค่ะคุณขา
“แฟนไม่ว่าหรอคุยกับเพื่อนผู้หญิงนานๆ แบบนี้”
ไม่ว่าบทสนทนาจะเป็นแบบไหน แต่ถ้าเราทักเขาไปเมื่อไหร่ เขาก็ว่างตอบเราตลอดเวลา แถมไม่ตอบช้าให้เรามัวแต่มโนว่าเขาจะไม่เล่นด้วย ก่อนจะเข้าข้างตัวเองไปเสียมากมายก็ลองพูดลองเชิงไปว่า “แฟนไม่ว่าหรอคุยกับเพื่อนผู้หญิงนานๆ แบบนี้” เพื่อเป็นการถามไปในตัวว่าเขามีแฟนแล้วหรือยัง และเพื่อเป็นการบอกเขาเป็นนัยๆ ว่า “นี่เราไม่ได้มาจีบเธอนะ เรามองตัวเองว่าเป็นเพื่อนผู้หญิงของเธอต่างหาก” เพราะถ้าเขาตอบว่ามีแฟนแล้ว เราจะได้ยังเป็นเพื่อนกับเขาต่อไปได้ ไม่ต้องหน้าแหกกลับบ้านไปร้องไห้แต่อย่างใด
“น่ารักแบบนี้ แฟนคงหวงแย่เลยเนอะ”
ถ้าเขามาทำปฏิกิริยาน่ารักน่าชังใส่เรา จนดูก็รู้ว่านี่ทอดสะพานให้ แต่เราก็ไม่อยากเผยไต๋ไปเต็มที่ว่าเราก็มีใจให้เขาเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าเขาโสดจริงๆ หรือซ่อนหญิงไว้หรือเปล่า ก็ลองงัดประโยค “น่ารักแบบนี้ แฟนคงหวงแย่เลยเนอะ” มาใช้ให้รู้แล้วรู้รอด เพื่อเป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าเรารู้สึกว่าเขาน่ารักนะ แต่เราคงไม่ยุ่งดีกว่าถ้าแฟนเขาขี้หวง ซึ่งถ้าเขามีแฟนเขาก็อาจจะพูดว่าแฟนไม่หวงหรือแฟนหวงก็ว่ากันไป แต่ถ้าเขามีใจให้เราด้วย โสดด้วยก็บอกเลยว่าเขาจะรีบปฏิเสธพัลวันว่าไม่มีแฟน ก็แหม เราไปชมเขาว่าน่ารักขนาดนั้นแล้วนี่นา
“กลับบ้านดึกขนาดนี้ แฟนไม่ตามหรอ”
ถ้าบังเอิญว่าคุยกันไปถึงขั้นชวนเที่ยว ชวนดูหนัง ชวนกินข้าวกันสองต่อสองแล้ว แต่เขาก็ยังดูลึกลับไม่พูดตรงๆ สักทีว่าหัวใจยังว่างหรือมีคนจับจองไปหมดแล้ว วันไหนที่เขาเผลออยู่กับเราดึกกว่าทุกวันก็เชิญถามเขาไปเลยค่ะซิสว่า “กลับบ้านดึกขนาดนี้ แฟนไม่ตามหรอ” เพื่อเป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าที่เขาอยู่กับเราดึกขนาดนี้มันเกินคำว่าเพื่อนไปแล้วนะ ถ้ามีแฟนแล้ว เดี๋ยวแฟนก็มาตามกลับ ก็รีบกลับเถอะ ก่อนจะถลำลึกไปมากกว่านี้ แต่ถ้าเขาไม่มีและอยากใช้เวลากับเราต่อ ก็ไม่ต้องห่วงไปค่ะซิส เขาจะรีบบอกเราทันทีว่าโสดแน่ๆ
“อิจฉาคนได้เป็นแฟนเธอจัง”
ยิ่งเขาน่ารักมากขึ้นเท่าไหร่ หัวใจเราก็เต้นแรงมากขึ้นเท่านั้น การบอกเขาว่า “อิจฉาคนได้เป็นแฟนเธอจัง” ก็เป็นการบอกให้เขารู้ว่าลึกๆ เราก็อยากเป็นแฟนเขานะ แต่คงเป็นไม่ได้หรอกเพราะเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว เราจึงทำได้แค่อิจฉาผู้หญิงผู้โชคดีคนนั้นอยู่ห่างๆ บอกเลยว่าถ้าเขาโสดเขาก็จะรับรู้ทันทีว่านี่คือการสารภาพว่าเราอยากเป็นแฟนเขาใจจะขาด! แต่ถ้าเขาไม่โสดก็ทำใจรอนะคะหนูลูก เพราะเขาคงจะพูดถึงแฟนสาวของเขาขึ้นมาในจังหวะนี้นี่แหละ เตรียมรับมือให้ดี!
“มีเพื่อนโสดบ้างหรือเปล่า”
ผู้ชายมีสัญชาตญาณการปกป้อง คุ้มครอง สาวน้อยผู้บอบบางอย่างเราทุกคนค่ะ โดยเฉพาะสัญชาตญาณแห่งการเป็นเจ้าของ ถ้าเราเป็นคนเข้ามาคุยกับเขาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วดันไปบ่นๆ ว่าเหงา เขามีเพื่อนโสดบ้างหรือเปล่า ? เขาจะหวงและอยากแสดงความเป็นเจ้าของขึ้นมาทันทีด้วยการบอกว่าก็เขานี่ไงที่โสด! ทำไมเราไม่มองเขาล่ะ!? เพราะเขายอมไม่ได้แน่ที่เราจะไปตกลงปลงใจกับเพื่อนๆ ของเขาแทน แต่ถ้าเขาแนะนำเพื่อนที่โสดให้แบบหน้าตาเฉย ก็ทำใจนะคะซิส เพราะเขาคงไม่ได้คิดอะไรกับเราจริงๆ ก็สวยๆ เชิ่ดๆ ไปจีบเพื่อนเขาปลอบใจแทนได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม 5 ประโยคเหล่านี้มีไว้เพื่อพูดกับชายหนุ่มที่ปากตรงกับใจ ไม่มีนิสัยโกหก ปิดบังเท่านั้น ถ้าซิสเจอผู้ชายเจ้าชู้ประเภทคบสาวคนอื่นอยู่แล้ว แต่อยากมีคนคุยแก้เหงา เจ้ก็บอกเลยว่าใช้วิธีล้วงความลับเนียนๆ แบบนี้ไม่สำเร็จแน่นอน ดังนั้นนอกจากการถามเขาเองแล้ว ก็อย่าลืมสังเกตพฤติกรรมรอบๆ เขาประกอบกันไปด้วย เพราะเป็นผู้หญิงยุคนี้ต้องทั้งฉลาด มีไหวพริบ และสตรองค่ะซิส!