ตัวแปรอะไร ที่ทำให้เรารักใครซักคน
เคยสงสัยมั้ยว่า การที่จะมีคนมารักเราหรือการที่เราจะรักใครซักคน จะมีตัวแปรอะไรบ้าง แล้วเหตุผลที่ทำให้คนเรารักกันนั้นมันคืออะไร
1. รักตัวเองให้ดี แล้วจะมีคนมารุมรัก
บทนี้จะพูดถึงเรื่องการเห็นคุณค่าของตัวเอง รู้จักตัวเอง การได้ให้โอกาสตัวเองได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ไม่จมปลักอยู่กับที่หรือผูกตัวเองไว้กับคนรักเก่า เมื่อมองเห็นคุณค่าของตัวเองแล้วเราจะมีการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เมื่อเราพัฒนาตัวเองแล้วเราจะได้เจอสิ่งใหม่ๆ การคิดบวกหรือมองโลกให้แง่ดี จะช่วยให้เรามีความสุขกับการมีชีวิตอยู่และยังดึงดูดให้ผู้คนอยากเข้ามาทำความรู้จักเราอีกด้วย
2. ตัวคุณคือแม่เหล็กมีทั้งขั้วบวกและขั้วลบ
สืบเนื่องจากบทที่แล้ว ที่บอกให้เราคิดบวก เมื่อเราคิดดีเราก็จะดึงดูดคนดีๆเข้ามา แต่เมื่อเราคิดแย่ก็จะดึงดูดคนไม่ดีเข้ามาเหมือนกัน คือ คนที่ทำให้เรารู้สึกแย่หรือไม่มีความสุขเวลาอยู่กับเขา ยกตัวอย่างเช่น พอคุณเจอคนรักใหม่ที่คุณคิดว่าเขาจะทำให้คุณมีความสุข แต่รักครั้งก่อนทำคุณเจ็บช้ำเพราะคนรักเก่านอกใจ คุณจึงมีปมและความระแวงทำให้กลัวว่ารักครั้งนี้จะเป็นเหมือนครั้งก่อน ความระแวงทำให้ต้องทะเลาะกับคนรัก และในที่สุดก็ลงท้ายด้วยการเลิกกัน ทั้งๆที่คนรักใหม่นั้นเป็นคนดีมากๆคนหนึ่ง แต่ก็ต้องจากคุณไปเพราะการคิดลบของคุณอะไรประมาณเนี่ย
3. รัก หรือ หลง
คำว่า “รัก” นั้นมีความหมาย การอยากให้คนที่ตนรักมีความสุข แล้วตัวเองก็ต้องมีความสุขด้วย ทั้งที่ความสุขนั้นอาจจะไม่ใช่หมายถึงความสมหวังเสมอไป ในความรักไม่มีความกลัว เพราะความกลัวถูกจัดเข้ากับการลงโทษ แต่การเสียเขาไปต้องมีเหตุผลที่สมควรจาก 2 ฝ่ายด้วย ไม่ใช่เราคิดไปเองว่า เขาคงจะได้ดี แล้วก็ทิ้งเขาไป (เห็นได้จากในละครอยู่บ่อยๆ) ซึ่งทำให้เราต้องสูญเสียโอกาสทั้ง 2 ฝ่าย กลายเป็นจบลงด้วยความเศร้าแทน ถ้าเราจะรักใครซักคน เราต้องคิดอยู่เสมอว่า เราจะให้อะไรกับเขา ไม่ใช่จะได้อะไรจากเขา ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง
ส่วนคำว่า “หลง” เกิดจากความต้องการ อยากอาชนะ ความเห็นแก่ตัว และการปรารถนาจะครอบครอง เริ่มแรกมักเกิดจากความรัก แต่พอเมื่อรักมากเข้าจะกลายเป็นความหลง จะมีความอิจฉาริษยาเข้ามาเกี่ยวเมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยว ความรักกับความหลงมีความหมายต่างกันสิ้นเชิง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างกันเช่นกัน ความรักจะอยู่บนเส้นทางที่สวยงาม การคิดบวก ให้อภัย และการเชื่อใจ แต่ต่างกับความหลงที่อยู่บนเส้นทางที่อันตราย น่ากลัว เพราะความคิดลบทำให้ต้องระแวง ต้องการครอบครอง ล้างแค้น และเอาชนะ
4. ใครๆก็อยากอยู่ใกล้คนมีเสน่ห์
พูดถึงสเน่ห์ที่มีอยู่ในตัวแค่เราใช้ให้เหมาะสม ก็จะมีแต่คนอยากอยู่ใกล้ โดยจะแบ่งเป็น 2 ประเภท
เสน่ห์ทางกาย : พูดถึงเรื่องรูปร่าง หน้าตา หรือ บุคลิก เพราะใครๆก็ชอบคนสวย หล่อ หรือ ดูดีกันทั้งนั้น เราสามารถสร้างสเนห์นี้ได้ ด้วยการใส่ใจดูแลสุขภาพของร่างกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ (การปล่อยตัว หรือ ไม่ดูแลตัวเองก็เป็นการทำลายสเน่ห์ทางกายอย่างนึง)
เสน่ห์ทางใจ : พูดถึง ผู้ชายจะชอบผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง เธอสามารถควบคุมอารมณ์ ความต้องการได้ แต่โดยรวมจะเป็นเรื่องของการรู้จักคุณค่าของตัวเอง เข้าใจว่าเราเองก็มีคุณค่า รักและให้เกียรติตัวเอง ก็ถือเป็นสเน่ห์ทางใจอย่างนึง แต่ถ้าเราแสดงการกระทำบางอย่างออกไป ก็สามารถเป็นการทำลายสเนห์ได้อย่างนึง เช่น ความรู้สึกโหยหา หรือ ความสิ้นหวัง , มองโลกในแง่ร้าย
5. ความรักมีภาษาของตัวเอง
ภาษาแห่งรัก ที่พูดถึงการทำยังไงให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นมากกว่า
การชื่นชม : ขอบคุณเมื่อเค้าทำอะไรให้ , ชมเค้าด้วยใจจริง
ใช้เวลาร่วมกัน : ไม่ใช่การนั่งดูทีวีด้วยกัน แต่เป็นการเอาใจใส่ รับรู้เรื่องราวของเค้า ชีวิตประจำวันของเค้า ความสัมพันธ์ของเค้ากับคนอื่น หรือ เรื่องราวอื่นๆของเค้า รับฟังด้วยใจ
ให้ของขวัญ : ด้วยการซื้อ หรือ ทำเองก็ได้ หรือบางทีคุณอาจจะเป็นของขวัญด้วยการอยู่เคียงข้างในยามที่เค้าลำบากก็ได้
การบริการ : เช่น ช่วยเลือกซื้อเสื้อผ้า , ทำอาหารให้ , ช่วยหาข้อมูล
การสัมผัส : เช่น การกอด หรือ จูบ
สรุปแล้วความรักก็เริ่มจากตัวเราเองก่อนนี่แหละ เมื่อเรารู้จักรักตัวเอง ดูแลตัวเอง รักผู้อื่น ดูแลคนรอบข้าง เดี๋ยวก็มีคนอยากเข้ามาดูแลเราเองแหละ ทุดท้ายแล้วมันก็ต้องเริ่มจากที่ตัวเราก่อนเสมอไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ รักตัวเองให้มากๆแล้วเดี๋ยวความรักก็จะวิ่งเข้ามาชนเราเองโดยไม่รู้ตัวเองแหละ