แม้ว่าชีวิตคู่เปรียบเหมือน “ลิ้นกับฟัน” ที่ย่อมต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ช่วงเวลาที่ทุกคนต้องเก็บตัวอยู่บ้านกันแบบนี้ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รักล่มหรือเตียงหักได้ง่ายขึ้น เพราะการอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง โอกาสที่จะทำอะไรขวางหูขวางตา หรือทำให้อีกฝ่ายขัดใจย่อมมีมากขึ้นตามไปด้วย
ขนาดประเทศญี่ปุ่นที่เรามองว่าผู้คนน่ารัก เป็นมิตร และสุภาพ ก็ยังหนีไม่พ้นปัญหาเดียวกันนี้ ถึงขั้นมีผู้ไปใช้บริการเปิดห้องพักเป็นการชั่วคราวกันจำนวนไม่น้อย เพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะกับคู่รักหรือสามีภรรยา ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นฝ่ายหญิงที่ออกมาหาที่พักพิงชั่วคราว เพราะอยากมีเวลาอยู่กับตัวเอง และอยากพักผ่อนบ้าง หลังจากต้องเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลทั้งลูก ทั้งสามี ที่อยู่บ้านด้วยเหมือนกันในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม บ้านเราไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการเปิดห้องพักในโฮสเทลหรือโรงแรมอย่างญี่ปุ่นได้ เพราะตอนนี้ทุกแห่งถูกสั่งปิดเป็นการชั่วคราว จึงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากอยู่บ้านหลังเดียวกันต่อไป
หากไม่อยากให้คู่ตนเองต้องกระทบกระทั่งกัน จนนำไปสู่การมีปากเสียงกันเรามีฮาวทูดีๆ ที่จะช่วยให้อยู่ร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องลงเอยด้วยการแยกทางหรือหย่าร้างกัน
1. จัดตารางชีวิตประจำวัน
เมื่อรู้อยู่แล้วว่าแต่ละวันต้องทำกิจวัตรประจำวันอะไรบ้าง ให้ลองจัดตารางชีวิตของคุณทั้งคู่ไม่ให้ทับซ้อนกัน เพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง และพื้นที่ส่วนตัวบ้าง ซึ่งจะช่วยลดการปะทะกัน เมื่อต่างฝ่ายก็มีระยะห่างระหว่างกัน
2. การอยู่ร่วมกันคือความท้าทาย
แม้ว่าจะเครียดที่ต้องอยู่บ้านตลอดเวลา แต่ไม่ควรหงุดหงิดและพาลใส่คนอื่น และควรยอมรับว่าสถานการณ์เช่นนี้จำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน และนั่นคือความท้าทายของทุกคน ช่วงเวลาเช่นนี้จึงควรให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันมากกว่า
3. มีช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกัน
ในแต่ละวัน ควรจะมีช่วงเวลาที่คุณและคนรักได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพด้วย อาจจะนั่งดูซีรีส์เรื่องโปรดด้วยกัน จัดมื้อดินเนอร์สุดโรแมนติกเป็นครั้งคราว หรือนั่งพูดคุยกันอย่างสบายๆ ด้วยเรื่องสัพเพเหระต่างๆ ที่ไม่ทำให้ต้องมาทะเลาะกัน
4. เดินออกกำลังกายด้วยกันทุกวัน
กิจกรรมที่คุณและคนรักสามารถทำร่วมกันได้ แถมยังได้สุขภาพที่ดีกลับมาเป็นของแถมด้วย ก็คือการเดินออกกำลังกายนั่นเอง ซึ่งสามารถช่วยลดความตึงเครียดจากเรื่องต่างๆ ที่คุณเจอมาตลอดทั้งวัน และทำให้รู้สึกผ่อนคลายด้วย
5. มีกิจกรรมร่วมกันทั้งครอบครัว
สำหรับครอบครัวที่มีเด็กอยู่ด้วย ควรมีช่วงเวลาที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับพวกเขาเช่นกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาครอบครัวที่จะได้กระชับความสัมพันธ์ร่วมกัน แทนที่จะแยกกันไปอยู่ห้องใครห้องมัน หรือมัวแต่ขลุกอยู่กับมือถือ คอมพิวเตอร์ทั้งวัน