จู่ๆ ก็อยากจะทำตัวดูดี น่ารัก ในสายตาหนุ่มๆ ขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร หนุ่มๆ จะชอบแบบไหน วันนี้เราเลยนำ 5 วิธีเพิ่มความดูดีและน่ารัก ให้หนุ่มๆ หลงใหล มาฝากสาวๆ กันค่ะ รู้ไหมว่าการเพิ่มความน่ารักให้ตัวเองนั้นมันมีตั้งหลายวิธี แค่ปรับตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย ก็โอเคแล้ว แต่ก็อย่าพยายามจนลืมความเป็นตัวเองไปจนหมดหล่ะ >,<
5 วิธีเพิ่มความดูดีและน่ารัก ให้หนุ่มๆ หลงใหล
1. อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว
คนน่ารัก ไม่ได้แปลว่าเขาต้องสวยเลิศ หรือหล่อขั้นเทพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างไรก็ได้นะคะ ต้องรู้จักดูแลความดูดีของตนเองด้วย เพราะเป็นต้นทุน หรือต้นทางของความน่ารัก แม้หน้าตาไม่สวยหล่ออย่างสมบูรณ์แบบ แต่หากมีความเกลี้ยงเกลา ผุดผาด สะอาด และดูสุขภาพดี ก็ย่อมเป็นที่สะดุดตาน่ามองแล้วค่ะ ดูแลรูปร่างให้ได้ชื่อว่า “หุ่นดี” เข้าไว้ ได้แต้มเป็นต่อมาเกินครึ่งแล้วค่ะ
จากนั้นปรับปรุงทรงผมให้เข้ากับรูปหน้า และยุคสมัย ใช้การแต่งกายมาเสริมความน่ารัก โดยเฉพาะเสื้อผ้า กับเครื่องประดับต่างๆ หากเลือกได้อย่างเหมาะสม ก็ช่วยเพิ่มความน่ามอ งและน่าประทับใจได้อีกด้วย
2. พูดจาให้น่ารัก
พูดด้วยน้ำเสียงไพเราะเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องดัดเสียง ไม่ต้องทำเสียงสูงเสียงต่ำเหมือนดีเจ ไม่ต้องทำเสียงแอ๊บแบ๊ว หรือเสียงขึ้นจมูก เหมือนนางเอกละคร ไม่ทำเสียงแปร๋นเหมือนนางร้าย รวมทั้งไม่ต้องเสียงดัง เพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่พูดอย่างที่มนุษย์ธรรมดาทั่วไปเขาพูดกัน พูดจากความรู้สึกจริงๆ จริงใจ แจ่มใส และสุภาพ พูดด้วยจังหวะที่ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป เสียงดังพอเหมาะแก่การฟัง มีหางเสียง ค่ะ ครับ ทุกครั้งที่สนทนา ยกเว้นเพื่อนสนิทจริงๆ ที่เขาไม่ต้องการหางเสียงเหล่านี้ พูดให้ชัดเจน วรรคตอน ต้องถูกต้อง เพื่อให้การสื่อสารไม่ผิดพลาด และต้องพูดให้รื่นหูคน ที่สำคัญพูดแล้วต้องมีประเด็น ไม่ใช่พูดเรื่อยเปื่อย หรือพูดเพียงเพื่อจะรักษามารยาท จนคู่สนทนารู้สึกได้
การพูดไม่ว่าสั้นหรือยาว เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ ต้องมีประเด็นหรือมีเป้าหมายในการพูด เช่น พูดเพื่อให้สบายใจ พูดเพื่อแสดงความเป็นกันเอง ลดความประหม่าตื่นเต้น ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง พูดเชิญชวน พูดจูงใจ พูดเพื่อบอกกล่าวเรื่องหนึ่งเรื่องใด หรือแม้แต่พูดเพื่อให้คนฟังสนุก เหล่านี้ล้วนเป็นเป้าหมายของการพูด ซึ่งจะทำให้การพูดแต่ละครั้งมีคุณค่า เหมาะสมแก่กาลเทศะนั้นๆ และคนฟังไม่เบื่อ ไม่รำคาญ จนกระทั่งรู้สึกดีใจ สุขใจ หรือได้ประโยชน์จากการฟังได้ยิ่งดีค่ะ
3. มีท่าทีที่น่ารัก
ท่าทีที่น่ารักก็คือ ความสุภาพ ผ่อนคลาย ให้เกียรติ ไม่เหยียดหยามด้วยสีหน้า แววตา คำพูด หรือภาษากายอื่นๆ เช่น ยืนกอดอกด้วยท่าทีระวังตัว จ้องตาเขม็ง มองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า หรือทำประหนึ่งว่าเขาเป็นอากาศธาตุ ไม่มีตัวตน หรือมองด้วยหางตาอย่างหมิ่นแคลน เหล่านี้เป็นต้น
คนยิ้มแย้มแจ่มใส ดูจริงใจ และเป็นมิตร จะมีแรงดึงดูดให้คนเข้าหา เขาจะสัมผัสได้ถึงความปลอดภัย ความเป็นกันเอง การเปิดกว้าง และการให้เกียรติที่คุณสื่อสารผ่านท่าทาง เขาจะรู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่ใกล้คุณ สบายใจและสุขใจที่จะสนทนาด้วย และจดจำได้ว่าคุณน่ารักแค่ไหน
5 วิธีเพิ่มความดูดีและน่ารัก ให้หนุ่มๆ หลงใหล
4. มีจิตใจที่น่ารัก
ไม่เย่อหยิ่งจองหองมองคนอื่นด้วยความรังเกียจเหยียดหยาม แต่จงมีจิตใจที่กว้างขวาง ที่สามารถคบหาคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกฐานะ และทุกอาชีพด้วยความบริสุทธิ์ใจ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และปรารถนาดีต่อผู้อื่นอยู่เสมอ นั่นรวมถึงความซื่อสัตย์และความไว้ใจได้ ซึ่งจะทำให้คนอื่นคบหาเราด้วยความจริงใจและให้เกียรติเช่นเดียวกัน
จิตใจที่ดีจะส่งผ่านการกระทำที่น่ารัก เช่น ยิ้มหวาน รู้จักทักทาย กล่าวคำขอบคุณ ขอโทษ คิดถึง เป็นห่วง และรัก ได้อย่างเต็มใจ จริงใจ และน่าประทับใจ ต้องเคารพและให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ ซึ่งในความเป็นมนุษย์ ไม่มีใครต่ำต้อยหรือสูงส่งไปกว่ากัน ทุกคนรู้ร้อนรู้หนาว รู้สุขรู้ทุกข์ และปรารถนาที่จะได้รับการปฏิบัติที่ดีจากผู้อื่นเหมือนๆ กันหมด อยากให้คนอื่นปฏิบัติต่อเราอย่างไร จงปฏิบัติต่อเขาเช่นนั้นก่อนเสมอ
5. มีธรรมชาติ และมารยาทที่น่ารัก
ในที่สาธารณะก็รู้จักวางตัว ในที่ส่วนตัวก็มีความเป็นกันเอง สงบ และสำรวมได้ พูดง่ายๆ ว่าเป็นคนรู้กาลเทศะ และเป็นเช่นนั้นเสมอในทุกๆที่
เจอผู้ใหญ่ก็ยกมื้อไหว้ ทักทาย ยิ้มแย้มแจ่มใส เดินผ่านผู้ใหญ่ก็สำรวม เก็บอาการ และให้เกียรติ ไม่ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ ไม่แซงคิวคนอื่น ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น ใช้สมบัติสาธารณะอย่างระมัดระวัง ไม่ใช้ของทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด รู้จักประหยัด อดออม ห่วงใย สนใจ และดูแลสิ่งแวดล้อม ฯลฯ เหล่านี้คือธรรมชาติที่บางทีเราไม่รู้ตัว แต่คนที่ได้รับการขัดเกลามาดี แม้ไม่รู้ตัว ก็ยังแสดงออกในสิ่งเหล่านี้ได้อย่างน่ารักเสมอ