มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน : 4 ขั้นตอน ปลดล็อคสถานะที่ไม่ชัดเจน โดนกั๊ก และให้ความหวัง
บางครั้ง เราอาจตกอยู่ในสถานะที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน ถามหาคำตอบทีไร ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนในความสัมพันธ์เสียที ตกอยู่ในสถานะที่เรียกว่า ” มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน ” อยากจะอัปเกรดสถานะทีไร ฝ่ายนั้นก็เหมือนจะทำเป็นนิ่งเฉยทุกที แต่จะลดสถานะความสัมพันธ์ลง ก็เหมือนว่าเขาจะยังมีใจให้ทุกที แล้วแบบนี้ เราจะจัดการอย่างไรกับสถานะที่ไม่ชัดเจนนี้ดีล่ะ?
หลายคนต้องพบเจอความสัมพันธ์ที่ค้างคา ไปต่อก็ไม่ได้ จะถอยกลับก็ดูลำบาก ยกตัวอย่างเช่น ชอบเพื่อนคนหนึ่งมานานแล้ว แต่เพื่อนคนนี้ก็แทงกั๊ก ไม่ตอบตกลงคบเป็นแฟนกับเรา แต่ก็ไม่ปฏิเสธความสัมพันธ์ในระดับมากกว่าเพื่อน จึงทำให้เราไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้เด็ดขาดในด้านความสัมพันธ์ จนสุดท้ายแล้ว นอกจากจะเสียเวลาและยังเสียความรู้สึกกับ ความสัมพันธ์ที่ไม่ก้าวไปไหน เป็นอาการ “ความสัมพันธ์เรื้อรัง” คอยยุกยิกกวนใจเรา
เรามีวิธีแก้สำหรับผู้ที่อยากจะปลดล็อคความสัมพันธ์แบบนี้เสียที แต่คุณต้องมั่นใจว่าคุณพร้อมแล้วที่จะถอย พร้อมที่จะยุติความสัมพันธ์ครึ่งๆ กลางๆ นี้เสีย ดีกว่าจะปล่อยให้มัน เรื้อรังต่อไปเรื่อยๆ
1. ยืนยันสถานะความสัมพันธ์ให้ชัดเจน
ยืนยันสถานะความสัมพันธ์ของพวกคุณให้ชัดเจนว่า คุณยังเป็นเพียง เพื่อนสนิท เพื่อน หรือเป็นมากกว่าเพื่อน แต่อีกฝ่ายนั้นไม่ยอมที่จะเปลี่ยนสถานะที่มีเป็นคู่รักหรือเป็นแฟนกันเสียที ก็ถือได้ว่าเป็นความสัมพันธ์เรื้อรังอย่างหนึ่ง หรือเพื่อนสนิทที่นิสัยไม่ดี คอยแต่ยืมเงิน แต่ไม่ยอมใช้หนี้ซะที ครั้นจะเลิกคบแม่งก็รู้สึกเสียดายว่าคบกันมานาน แต่คบมันเป็นเพื่อนต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นในชีวิต นี่ก็เป็นความสัมพันธ์เรื้อรังอีกแบบเช่นกัน
เมื่ออีกฝ่ายถามว่าทำไมถึงห่างกันหรือความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงไป ก็ต้องบอกไปอย่างเข้มแข็ง และ ชัดเจนว่า คุณถอยออกจากความสัมพันธ์นี้แล้ว และ บอกกับตัวเองไว้ว่าจะลดระดับความสัมพันธ์ไปถึงระดับไหน เช่น บางคนเรื้อรังกับคู่รักที่ไม่ก้าวหน้าไปไหนแล้วยังมีผู้หญิงอื่นมาวอแวด้วยการลดความสัมพันธ์เหลือเพียงเป็นคนรู้จักเท่านั้น หรือในกรณีที่จบกันด้วยดี ก็อาจจะเป็นเพื่อนกันได้ แต่ก็จะไม่ก้าวผ่านเฟรนด์โซนอีก เป็นต้น
2. ทิ้งระยะห่าง
เมื่อคุณยืนยันได้แล้วว่า คุณต้องการจะเลิกคงความสัมพันธ์แบบนี้ ก็ให้ตั้งใจลดระดับความสัมพันธ์ลงมา เช่นจากอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ก็ทิ้งระยะห่างออกมา เป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น เพราะเราต้องเริ่มที่จะถอยออกมาจากความสัมพันธ์เรื้อรังก่อน
3. โฟกัสไปที่สิ่งอื่น
ระหว่างถอยจากความสัมพันธ์เรื้อรังนั้น มันมักจะมีความรู้สึก เสียดาย หรือยังอาลัยอาวรณ์อยู่ แนะนำให้เราเทเวลาไปกับสิ่งที่ให้ประโยชน์กับเรามากกว่า เช่น เอาเวลาเที่ยวด้วยกันไปออกกำลังกาย เอาเวลาที่คุย หรือ แชทกันประจำไ ปทำงานเสริม หรือ อยู่กับครอบครัวแทน จะช่วยให้เราเสียดายกับการถอยของเราน้อยลง เพราะเรามีสิ่งอื่นที่สำคัญกว่าในชีวิต มากกว่าจะมัวเสียเวลากับความสัมพันธ์เรื้อรังที่ไม่ไปไหนเสียที
4. เดินหน้าต่อ
นอกจากจะ “อย่ากลับไป” แล้ว เราก็ต้อง “เดินหน้าต่อไป” ให้ได้ด้วย เลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง ทำสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง แล้วมีความสุขกับชีวิตของเรา
ลองเอาวิธีนี้ไปใช้กันได้หากอยากเลิกแล้วซึ่งอาการ “ความสัมพันธ์เรื้อรัง” อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน ชีวิตไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือขนาดนั้น