เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ได้ยินมาบ่อยครั้งหลังจากแต่งงานกันไปเป็นคู่แต่งงานนอกจากเรื่องของสามี-ภรรยาเองแล้ว เรื่องลูกสะใภ้กับแม่สามีเป็นคู่ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ก็เป็นปัญหาระดับชาติได้เหมือนกัน ยิ่งบ้านไหนฝ่ายหญิงต้องแต่งเข้าแล้วไปอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับแม่สามีด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ โดยมีแม่สามีเป็นผู้กุมบังเหียนทุกสิ่งอย่าง ลูกสะใภ้บางคนถึงกับหนาวๆ ร้อนๆ กันเลยทีเดียวว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นมาทำทุกอย่างให้ลงรักพอดีเป๊ะกันดีกว่า กับเทคนิคเตรียมตัวให้พร้อม ทำตัวให้น่ารักเพื่อให้แม่สามีเอ็นดูที่เรานำมาบอกต่อกัน รับรองว่าลูกสะใภ้คนไหนปฏิบัติได้ครบทั้ง 5 ข้อแบบสม่ำเสมอ แม่สามีที่ว่าเฮี้ยวๆ จะเปลี่ยนมาทั้งรักทั้งหลงแน่นอน
งานบ้าน งานเรือนอย่าให้ขาด
ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกสะใภ้ เป็นผู้หญิงแต่งงานเข้าไปใช้ชีวิตครอบครัวแล้ว เรื่องของงานบ้านงานเรือนอย่าให้ขาดตกบกพร่อง อย่าคิดว่าเป็นลูกสะใภ้ยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจงานบ้านงานเรือน เพราะอย่าลืมว่าแม่สามีบางคนก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความหัวโบราณเอาไว้อย่างหนักแน่น ดังนั้นย่อมอยากได้ลูกสะใภ้ที่มีความเป็นแม่ศรีเรือน เพราะอย่างน้อยก็จะได้คอยปรนนิบัติพัดวีลูกชายของเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง หรือดูแลบ้านช่องให้สะอาดสะอ้านน่ามอง สำหรับคุณลูกสะใภ้ที่เก่งเรื่องงานบ้าน งานเรือน เก่งเรื่องอาหาร ก็ต้องแสดงความสามารถออกมาให้เต็มที่ อะไรที่เป็นจุดขาย อาหารจานไหนที่ว่าเด็ด จัดให้แม่สามีก่อนเลย แต่ต้องแอบกระซิบถามคุณสามีด้วยว่ามีอะไรที่คุณแม่ไม่ปลื้มบ้าง ไม่งั้นจากจานเด็ดอาจเปลี่ยนเป็นความหมางใจกันได้
สุภาพอยู่เสมอและอย่าเถียง
อีกสิ่งที่ลูกสะใภ้ทำได้ยากที่สุด คงจะหนีเรื่องของการห้ามตัวเองไม่ให้เถียงแม่สามีหรืออย่าพูดมากเกินไปไม่ได้ แต่เพื่อให้แม่สามีเข้าใจ และรักเรา คุณก็ต้องทำให้ได้ เพราะการเถียงนำไปสู่ความเกลียดชังและการทะเลาะที่รุนแรงได้ ที่สำคัญคือ ทำตัวให้สุภาพและรู้จักกาลเทศะเสมอ เมื่อมีบทสนทนาเกิดขึ้น ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ให้ฟังเป็นส่วนมาก โต้ตอบเป็นส่วนน้อย ถ้ามีการขอความคิดเห็นที่เกิดขึ้น ให้ตอบแบบกลางๆ ในปริมาณพอดีๆ ไม่ใช่พอแม่สามีถาม ลูกสะใภ้อย่างคุณก็พูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง จนกลายเป็นสาวช่างจ้อ น่ารำคาญมากกว่าน่าเอ็นดู วาจาสุภาพ เอ่ยปากทุกคำต้องมีลงท้ายคะขา ด้วยความอ่อนหวานแบบที่ใส่จริตพอดีตัว เพราะถ้าหวานจนเวอร์ แม่สามีเขาอาจมองว่าคุณพูดจาไม่จริงใจ แถมยังตำหนิไปถึงบุพการีคุณได้
ดูแลเอาใจใส่เหมือนแม่แท้ๆ
แม่สามีก็เหมือนแม่ของเรา ให้คิดไว้แบบนี้ ซึ่งการที่จะทำแบบนี้ได้ก่อนอื่นเลยคุณจะต้องเปลี่ยนทัศนคติเป็นอย่างแรก ไม่ว่าคุณจะไม่ชอบแม่สามีขนาดไหน แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นคนเลี้ยงดู เฝ้าทนุถนอมคนที่คุณรักจนเขาโตขึ้นมาได้ ที่สำคัญ คือ แม่สามีเป็นหนึ่งในคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของสามีคุณด้วย พยายามอย่ามองเธอในแง่ร้ายเกินไป บางครั้งแม่สามีอาจพูดจาไม่ตรงใจคุณ นั่นอาจเป็นเพราะเธอเป็นห่วงคุณกับสามีมากก็ได้ ลองคิดกลับกันว่าถ้าเป็นแม่ของคุณเองก็อาจจะเป็นแบบนี้เช่นกัน และบางเรื่องบางอย่างก็ควรยอมแม่สามีบ้างซึ่งถ้าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ให้ลองถามตัวเองดูว่าจะเอาชนะไปเพื่ออะไร ชนะแล้วได้อะไร คุณในฐานะลูกสะใภ้ยังไงก็ไม่จำเป็นต้องชนะคุณแม่สามีหรอกค่ะ ปล่อยบ้าง ยอมบ้างก็ดี ถ้ามันจะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับแม่ผัวดีขึ้น แถมยังทำให้ชีวิตแต่งงานราบรื่นอีกด้วย
นอบน้อมถ่อมตน
เมื่อเข้ามาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับแม่สามี ก็เหมือนมีผู้ใหญ่ที่ต้องให้การเคารพ การมีคุณสมบัติการนอบน้อมถ่อมตนถือเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ชื่นชอบทั้งนั้น เพราะความนอบน้อมถ่อมตนและเคารพผู้ใหญ่ถือเป็นคุณสมบัติพึงมีที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตสำนึกของคนไทยมาแต่โบราณ อย่างน้อยที่สุดคือการไปลามาไหว้ ที่สำคัญจะต้องออกปากเรียก คุณพ่อคุณแม่สวัสดีค่ะอีกสักนิดเมื่อกลับมาบ้านหรือออกจากบ้านจะช่วยเพิ่มคะแนนได้อีกหน่อย นอกจากนี้ ถ้าท่านยื่นสิ่งของหรือตักข้าวให้ ห้ามลืมพนมมือและกล่าวคำขอบคุณด้วย ทำแบบนี้บ่อยๆ ให้ชินแม้ว่าจะอยู่ด้วยกัน เจอกันทุกวันก็ตามเหมือนเมื่อก่อนเราเคยเป็นอย่างไร ทำอย่างไรก็ทำเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการเอาใจใส่แม่สะใภ้ให้มากขึ้น
ชวนไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ
เป็นสามีภรรยากันก็ต้องมีออกไปเที่ยว ไปทานอาหารนอกบ้านเพิ่มความหวานให้ความรักหลังแต่งงานกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่นานๆ ครั้งชวนคุณแม่สามีไปด้วยก็ไม่ถือว่าผิดอะไร ไปช้อปปิ้งบ้าง ไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือต่างประเทศกันทั้งครอบครัรวบ้างยิ่งดี โดยเฉพาะผู้สูงอายุอย่างคุณแม่สามี การออกเดินทางไปท่องเที่ยวถือว่าเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุดแล้ว นอกจากจะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว บางครั้งกิจกรรมบางอย่างก็ช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ได้มากเหมือนกัน
ปัญหาแม่สามีกับลูกสะใภ้จะหมดไปเพียงเปิดใจและปรับทัศนคติของกันและกัน โดยเริ่มจากที่คุณก่อนในฐานะลูกสะใภ้ ลองปรับๆ ไปเรื่อยๆ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง รวมทั้งนำคำแนะนำที่เรานำมาบอกต่อไปประยุกต์ใช้ดูนะคะ