ผู้หญิงทุกคนคงรู้ใจกันดี ว่าตอนเด็กๆ น่ะ เคยใฝ่ฝันเรื่องราวความรักไว้ยังไงบ้าง อยากจะมีหนุ่มๆ รุ่นพี่มาจีบ มีหนุ่มภูมิฐานมาคอยดูแล เทคแคร์ เป็นสุภาพบุรุษ คือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ขอมีแฟนเป็นหนุ่มรุ่นพี่เถอะนะ!
ซึ่งพอช่วงวัยเรียนเนี่ย กลุ่มเป้าหมายของสาวๆ ทุกคน ก็มุ่งไปที่หนุ่มรุ่นพี่กันทั้งนั้นเลย และเวลาได้มีโมเมนต์อะไรกุ๊กกิ๊กน่ารัก แอบชอบ แอบเชียร์ใคร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรุ่นพี่ทั้งนั้น จนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตวัยเรียนผ่านไปได้อย่างแฮปปี้ จิตใจชุ่มฉ่ำสุดๆ ส่วนหนุ่มรุ่นน้องน่ะรึ หึ! เด็กๆ แบบนี้ คงไม่มีอะไรให้หวั่นไหวหรอก
แต่พอเมื่อเริ่มโตขึ้น จากประสบการณ์การคบหลายๆ รูปแบบ จนกระทั่งวัยใกล้จะแตะเลข 3 คุณก็จะรู้สึกได้ทันทีว่า จริงๆ หนุ่มรุ่นน้องนี่ก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งนะ มีความน่าสนใจ เทคแคร์ได้ไม่แพ้หนุ่มรุ่นพี่ แถมบางทียังมีข้อดีมากกว่าที่คิดอีกต่างหาก และจากคำบอกเล่าของสาวๆ ที่เคยเดททั้งหนุ่มรุ่นพี่ และหนุ่มรุ่นน้อง หลายคนมักพูดไปในทำนองเดียวกันว่า หนุ่มรุ่นน้องก็ไม่เลวนะ!อะไรที่ทำให้หนุ่มรุ่นน้องมาแรงแซงทางโค้งผู้ชายรุ่นพี่ที่เราเคยวาดฝันไว้สมัยเด็กๆ กันนะ ลองไปดู 5 เหตุผล ที่จะทำให้คุณอยากแต่งงานกับหนุ่มรุ่นน้อง! กินเด็กกันเถอะ! 5 เหตุผลดีๆ ที่จะทำให้คุณอยากได้สามีเด็กๆ!
1. เด็กๆ มีพลังล้นเหลือ!
อย่าเพิ่งๆ อย่าเพิ่งคิดลึก เราไม่ได้หมายความอะไรแบบนั้น แต่หมายถึงว่ามีพลังงานในความกระตือรือร้นอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งเอาจริงๆ พาดหัวมาแบบนี้ อาจจะค่อนข้างคลีเชนิดๆ หลายคนอาจจะคิดว่า เด็กหนุ่มๆ จะพาเราไปนู่น ไปนี่ได้บ่อยๆ เหมือนที่เคยได้ยินมาใช่มั้ยล่ะ แต่สิ่งที่จะพูดในข้อนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความสนุกอย่างเดียว แต่รวมถึงเรื่องอนาคตหลังมีครอบครัวแล้วด้วยหนุ่มที่มีวัยอ่อนกว่า จริงๆ แล้วสามารถทำหน้าที่พ่อได้ดีมากเลยนะ เพราะด้วยความที่เขามีพลังงานล้นเหลือนี่แหละ ฉะนั้นต่อให้เรามีลูกเล็กๆ เขาก็มีแรงวิ่งไล่จับเด็กน้อย พาลูกไปเล่น หรือแม้แต่เปลี่ยนผ้าอ้อมกลางดึกก็ยังไม่หมดแรงเลย อันนี้แค่พูดเรื่องดูแลลูกนะ ถ้าเรื่องอื่นล่ะก็ ลองจินตนาการเอาจ้า
2. ความคาดหวังที่แตกต่าง
อันนี้ขอยกตัวอย่างประสบการณ์ของเจนนิเฟอร์ นักข่าววัย 37 ปี ผู้ที่ลงเอยด้วยการแต่งงานกับหนุ่มวัยละอ่อน หลังจากลองเดทกับหนุ่มที่แก่กว่า และอายุเท่ากันมานานนับหลายปี เธอเล่าว่า รู้สึกเบื่อมากๆ เลยกับพวกผู้ชายที่หนีไปเพราะงานของเธอ แต่ทว่าพวกเด็กหนุ่มๆ กลับไม่ค่อยสนใจว่า แม่บ้านจะต้องทำงานแบบไหน หรือต้องทำอะไรในฐานะผู้หญิงซึ่งก็จริง ถ้าคุณได้ลองคบกับเด็กหนุ่มที่อายุห่างกับคุณเกิน 10 ปี เขาก็จะถูกเลี้ยงดู และเติบโตมาในโลกที่แตกต่างกับหนุ่มวัย 35+ และนั่นแหละคือข้อดี เพราะเขาคงจะเคยได้เห็นแม่ของเขาทำงานประจำโดยไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกอะไร นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าหนุ่มรุ่นน้องอาจจะพบว่างานที่ทำอยู่ไปได้ไม่ดี แต่เขาก็จะไม่รู้สึกแย่และเครียดเท่ากับหนุ่มรุ่นพี่ ด้วยทัศนคติที่ต่างกัน
3. หนุ่มๆ อารมณ์ดีมากกว่า
” พวกเด็กหนุ่มๆ จะค่อนข้างขี้เล่นมากกว่า ” ลินด์เซย์กล่าว ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง แถมหนุ่มที่อายุน้อยๆ ยังมีแนวโน้มว่าไม่เคยผ่านการหย่ามาก่อนด้วย ซึ่งถึงจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ให้ความเป็นอยู่ที่แตกต่างมากนะนอกจากนี้ จากประสบการณ์ชีวิตแต่งงานของหลายๆ คนก็พบว่า ความต่างระหว่างชีวิตสมรสที่มีความสุข กับชีวิตสมรสที่ไม่มีความสุขนั้นน่ะ มาจาก ” เสียงหัวเราะ ” คนที่คุณคบทำให้คุณหัวเราะบ้างรึเปล่า? เขาเป็นคนตลกมั้ย? เขาเคยเล่นอะไรโง่ๆ เหมือนเด็กๆ มั้ย? ถึงแม้ว่าหนุ่มรุ่นพี่อาจจะมีบางสิ่งที่ทำให้คุณประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการเปย์ หรือข้อความหยอด แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะขาดอะไรสักอย่างที่ให้ความรู้สึกเหมือนรักวัยเด็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้จากผู้ชายที่มีนิสัยขี้เล่นเท่านั้น
4. มองโลกในแง่ดี
” ถ้าคุณพูดถึงคนสองคน ที่เคยผ่านการหย่าร้างมาแล้ว หรือยังไม่เคยแต่งงานเลย ฟังดูก็ค่อนข้างสัมผัสได้ถึงกลิ่นดาร์กหน่อยๆ แล้วใช่มะ ” เจนนิเฟอร์ สาววัย 30 ผู้เคยผ่านการเดทกับหนุ่มรุ่นพี่ ซึ่งค่อนข้างมีทัศนคติที่หดหู่ และตัดพ้อ กล่าวต่อว่า ” หนุ่มที่อ่อนกว่า จะสัมผัสได้เลยว่า มีทัศนคติต่อคนที่เดทด้วยในแง่ดีกว่า “ถ้าพูดง่ายๆ ให้เห็นภาพคือ หนุ่มในวัย 25 อาจจะมีประสบการณ์การเดทมาแล้ว 10 ปี แต่หนุ่มในวัย 45 น่าจะผ่านประสบการณ์ใต้เข็มขัดมาแล้ว 30 ปี แค่นี้ก็เริ่มเห็นถึงความแตกต่างลางๆ แล้ว และเมื่อมีประสบการณ์มากกว่า แต่ยังโสดมานานกว่า แบบนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีแล้วล่ะจ้า
5. หนุ่มๆ ไม่ค่อยคิดมาก
ถ้าใครเคยได้เดทกับผู้ชายที่เกือบจะประสาท ขี้กังวลไปเรื่อยมั้ย? บอกเลยว่าเหนื่อยขั้นสุด! เนื่องจากว่าผู้ชายที่ผ่านประสบการณ์ความรักมาแล้ว จะค่อนข้างระแวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่จบแบบไม่ดีมา มักจะมีความกลัวอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งหนุ่มที่อ่อนกว่าไม่มีเพราะคนที่หนุ่มกว่าจะมีประสบการณ์อะไรบางอย่างน้อยกว่า จึงทำให้เขาไม่ค่อยมีความกลัว… ความกลัวที่มาจากการรู้ดีว่าสุดท้ายแล้ว อาจจะลงเอยได้ไม่ดีอย่างที่คิด ซึ่งการที่เขาไม่มีความกลัวในเรื่องนี้แหละ เป็นอะไรที่ดีต่อความรักมากๆ Tina B. Tessina นักจิตบำบัด และผู้เชี่ยวชาญด้านความรักเคยกล่าวถึงการมีความรักต่างวัยไว้ว่า ” อายุตามปีเกิดของเรา ไม่ได้สะท้อนถึงสมรรถภาพทางกาย หรือวุฒิภาวะทางอารมณ์เสมอไป แต่บางครั้งอายุที่แตกต่างกันก็เป็นเสมือนพี่เลี้ยงในด้านความรักได้เช่นกัน ”
แสดงว่ายิ่งอายุห่าง ก็ไม่ได้ความว่าจะยิ่งมีปัญหาใช่มั้ยเนี่ย >< ไหนๆ ใครที่ชอบโดนเพื่อนล้อว่ากินเด็กๆ ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้วนะจ๊ะ ถ้าโดนล้ออีก ส่งบทความนี้ไปปาใส่เล้ย เห็นมะ บอกแล้วว่าเด็กๆ มีแล้วมันดีต่อใจจริงจริ๊ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องแล้วแต่คนด้วยนะ บางคนเป็นรุ่นพี่แต่ทัศนคติดี ขี้เล่น ก็ไม่ใช่ว่าต้องรีบทิ้งไปหาเด็กนะ อันนั้นน่ะของดีอยู่แล้วจ้า ส่วนใครที่กำลังมองหาเด็กๆ ก็ไม่ใช่เป็นเด็กมัธยมน้าา เรียนจบก่อนเด้อออ