พฤติกรรมผู้ชายคบซ้อน ดูยังไง เพราะบางทีเราก็อยู่ใกล้ชิดกับเขาตลอดเวลา อีกทั้งเขายังไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงคนอื่นมาทำให้เราเสียใจเลย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้คบซ้อนอยู่
ความรัก คือความปรารถนาที่ชายหญิงหลายคู่อยากจะมีไว้ครอบครอง ด้วยมันทำให้เราสุขใจ คลายความเหงา อีกทั้งได้รู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลใครอีกคนไปนานๆ อันที่จริงแล้ว เรื่องรักๆ ใคร่ๆ มักมีความซับซ้อนมากกว่านั้น บางคู่ที่เราเห็นว่ารักกันดี ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ไม่มีเรื่องการนอกใจหรือความเจ้าชู้มาบั่นทอนชีวิตคู่ลงได้ แต่เมื่อสืบลึกเข้าไปแล้ว เราอาจพบว่ารักครั้งนี้ของพวกเขาไม่มีอยู่จริง ผู้หญิงที่ถูกเทิดทูนว่าเป็นแฟน กลับกลายเป็นแค่คนมาทีหลัง เพียงรอวันให้ผู้ชายเลือกเท่านั้นว่าเขาต้องการจะอยู่กับใคร
ดังนั้นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เราต้องตกอยู่ในสถานะ “ตัวเลือก” เป็นเพียงหนึ่งในความสัมพันธ์ที่ผู้ชายอยากเก็บเอาไว้ เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเลือกใคร ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องมาสำรวจความรักของตัวเองกันหน่อยแล้ว ว่าผู้ชายที่เขาคบเราอยู่มีแค่เราจริงไหม เราคือโลกใบเดียวของเขาหรือเปล่า แต่ถ้าใครยังไม่มีแฟนก็ศึกษาเอาไว้สักนิด จะได้รู้ว่า พฤติกรรมผู้ชายคบซ้อน ดูยังไง ถ้าอยากรู้แล้วก็ตามเรามา ขอบอกเลยว่า ทั้ง 12 ข้อนี้ ถ้าผู้ชายของเราทำเกิน 6 ข้อ แสดงว่าเขากำลังคบซ้อน แน่นอน
1. เขามีโทรศัพท์ 2 เครื่อง
ด้วยโทรศัพท์สมัยนี้ แบตเตอรี่มักจะหมดไวเหลือเกิน ทำให้หลายคนเลือกที่จะพกโทรศัพท์ไว้ 2 เครื่อง เผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้ใช้โทรศัพท์อีกเครื่องได้ทันที แต่นั่นแหละคือช่องว่างของการนอกใจอย่างง่ายดาย แทบจะไม่ต้องคอยระแวดระวังอะไรนัก อีกเครื่องหนึ่งเอาไว้คุยกับผู้หญิงคนแรก อีกเครื่องหนึ่งเอาไว้คุยกับผู้หญิงคนที่ 2 ได้อย่างสะดวก จะตอบข้อความหรือลงรูปในเฟซบุ๊ก ก็ไม่ต้องกลัวว่าลงหรือคุยด้วยผิดคน เพราะแค่เปลี่ยนโทรศัพท์ก็เปลี่ยนคนคุยได้แล้ว ดังนั้น ถ้าแฟนใครพกโทรศัพท์หลายเครื่องแล้วละก็ คงต้องสำรวจและตรวจตราให้ดีหน่อยนะ
2. ปลีกตัวไปคุยโทรศัพท์เรื่องธุรกิจอยู่บ่อยครั้ง
ทั้งๆ ที่ผู้ชายบางคนทำงานแค่อาชีพเดียว แต่ทำไมการเจรจาทางธุรกิจของเขาถึงมีมากมายและบ่อยครั้งนัก หากเป็นธุรกิจจริงๆ แล้วสถานที่นั้นก็ไม่ได้เสียงดังมาก หรืออยู่ในห้องนอนด้วยซ้ำ แต่เขากลับปลีกตัวไปรับโทรศัพท์อยู่เรื่อย กดรับสายต่อหน้าเราก็ไม่ได้ ต้องไปกดรับสายที่อื่นเท่านั้น อย่างนี้ควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน ว่าที่เขาไปคุยใช่เรื่องธุรกิจจริงหรือไม่
3. ถ้าโทร. ไปหาเขานอกจากเวลานัด เราแทบจะติดต่อกันไม่ได้เลย
คู่รักหลายคู่มักจะมีเวลาสำหรับโทร. คุยหรือส่งข้อความหากันทางไลน์เป็นประจำอยู่แล้ว เช่น ตอนก่อนเข้างาน, เวลาพักเที่ยง หรือช่วงก่อนนอน แต่หากลองโทร. หาเขานอกเหนือจากเวลาที่คุยกัน แล้วเขาตัดสายเราทิ้งหรือปิดเครื่องหนี ยิ่งเป็นช่วงหลังเลิกงานที่น่าจะเป็นเวลาที่ว่างที่สุดด้วย ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าเขาอยู่กับผู้หญิงอีกคนในเวลานั้นแน่นอน
4. เขาเปิดโทรศัพท์ให้เป็นโหมดเครื่องบินเมื่ออยู่กับเรา
ผู้หญิงบางคนอาจไม่เคยเจอกับปัญหาว่าเขาชอบแอบไปคุยโทรศัพท์หรือแอบพิมพ์ข้อความหาใคร นั่นก็เพราะว่าเขามาเหนือกว่านั้น ด้วยการเปิดโทรศัพท์ให้เป็นโหมดเครื่องบินไปเลย ไม่ต้องมากังวลใจว่าจะมีข้อความเข้าตอนไหน แค่นี้เราก็จับพิรุธเขาไม่ได้แล้ว
5. คุณรู้จักแค่เพื่อนฝั่งเดียวของเขา
การรู้จักเพื่อนฝั่งเดียวในที่นี้ หมายถึงเรารู้จักแค่เพื่อนที่ทำงานโดยไม่รู้จักเพื่อนสมัยเรียนของเขาเลยสักคน หรือบางทีก็รู้จักแค่เพื่อนสมัยเรียนของเขา หากเป็นเพื่อนที่ทำงานก็แทบจะไม่เคยเห็นหน้า ขนาดในเฟซบุ๊กยังไม่มีภาพของเพื่อนๆ กลุ่มนั้นเลย นั่นเป็นเพราะเพื่อนกลุ่มที่เราไม่เคยเจอ อาจจะไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าเราก็เป็นแฟนของเขาอีกคน
6. เขามักจะพาเราไปเดตในสถานที่เงียบสงบ
ในใจเราคงคิดว่า ดีจัง ! สงสัยเขาคงชอบความโรแมนติก อยากหนีความวุ่นวายต่างๆ เพื่ออยู่กับเราเพียง 2 คนเท่านั้นแน่เลย แต่หากลองคิดอีกแง่หนึ่ง บางทีอาจจะเป็นเพราะกลัวเราบังเอิญไปเจอคนรู้จักเขาต่างหาก ยิ่งถ้าคุณอยู่ในจังหวัดเล็กๆ โอกาสที่จะเจอเพื่อนของเขาก็ง่ายมากขึ้น ดังนั้นลองนัดเจอคุณผู้ชายแถวที่ทำงานของเขา ไม่ก็สถานที่ที่เขาชอบไปกับเพื่อนบ่อยๆ ดู จะได้รู้ว่าเขาอยากหลบซ่อนเราจากหญิงคนรักที่มีอยู่แล้วจริงไหม
7. มีตารางเวลาพบปะกันแบบชัดเจน
เวลาจะนัดเจอกับเรา เขามักจะกำหนดเวลาหรือวันที่เอาไว้อย่างชัดเจน ไม่เคยนัดเรานอกเวลานั้นเลย อย่างถ้าเขาเคยนัดเราเฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ จะช่วงกลางวัน หัวค่ำ หรือดึกดื่นแค่ไหนเขาก็พร้อมมาเจอ แต่ถ้าลองเป็นวันหยุดอย่างเสาร์ – อาทิตย์ เขาก็จะพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ยอมมาเจอ หาเหตุผลสารพัดมาอ้าง นั่นเป็นเพราะเขาจัดตารางเวลาที่จะมาเจอเราและเจอผู้หญิงอีกคนไว้อย่างดีแล้วนั่นเอง
8. เขามีเฟซบุ๊ก 2 บัญชีผู้ใช้
ขอให้สาวๆ อย่าชะล่าใจเด็ดขาด ว่าเฟซบุ๊กที่เขาขึ้นสถานะว่าคบหาดูใจกับเราแถมยังลงรูปคู่กันเต็มไปหมดนั้นเป็นเพียงบัญชีเดียวที่เขามี บางครั้งเขาอาจจะมีเฟซบุ๊กอีกหนึ่งอันที่บล็อกเราไว้ไม่ให้เห็น รวมถึงบล็อกเพื่อนๆ ของเราไม่ให้เห็นบัญชีนั้นอีกด้วย ทางที่ดี ควรปลอมตัวเป็นนักสืบออนไลน์สักวัน ค้นหาชื่อที่คิดว่าน่าจะเป็นนามแฝงของเขา แล้วตามไปส่องดูว่าในเฟซบุ๊กนั้น เขาเป็นแฟนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่หรือเปล่า
9. เมื่อกลับถึงบ้านแล้วเขาไม่เคยโทร. แบบวิดีโอหาเราเลย
เป็นคนรักกันก็อยากจะมองเห็นหน้ากันตลอดเวลา หรือไม่ก็แค่อยากจะเห็นว่าพอกลับถึงห้องแล้วเขาชอบทำอะไร อาบน้ำหรือยัง ใส่ชุดนอนแบบไหนเท่านั้นเอง แต่ผู้ชายบางคนกลับปกปิด อ้างเพียงแค่ว่าเขินอาย ไม่อยากจะคุยแบบเห็นหน้า ถนัดพิมพ์คุยกันเสียมากกว่า ถ้าอย่างนั้นต้องระวังให้ดี บางทีอาจจะมีสาวสวยนอนข้างเคียงเขาอยู่ก็เป็นได้ เลยไม่อยากให้โทร. แบบวิดีโอหา
10. เราแทบจะไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ที่ไหน
นี่คือความลับข้อสำคัญที่เขาพยายามบ่ายเบี่ยงไม่เอ่ยปากถึง ว่ากินข้าวอยู่ที่ไหน ไปเที่ยวกับใคร กลับบ้านตอนไหน เนื่องจากผู้ชายที่คบซ้อนเขารู้ดีว่าผู้หญิงเราจับผิดเก่งเพียงใด แค่บอกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ผู้หญิงเราก็รู้ข้อมูลเกี่ยวกับตรงนั้นทุกอย่างแล้ว ดังนั้นถ้าเราไม่เคยรู้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน ให้สันนิษฐานเอาไว้ก่อนว่าเป็นเพราะเขาอยู่กับใครอีกคนแน่นอน
11. ชอบตอบตกลงนัดกับเรา แต่สุดท้ายก็เบี้ยวนัด
เวลามีนัดอะไรที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าสัก 1 – 2 สัปดาห์ เขามักจะตอบตกลงเอาไว้ก่อนให้เราชื่นใจ เช่น เราจะต้องไปงานบวชของเพื่อนสนิท เขาตกลงว่าจะไปด้วยกันแน่ๆ ทั้งจองรถ จองโรงแรมเอาไว้ พอถึงวันจริงก็กลับมาปฏิเสธเสียอย่างนั้น นั่นเพราะเขารู้วิธีเอาใจผู้หญิงอย่างเราดี ตอบตกลงให้ดีใจไปก่อนค่อยปฏิเสธทีหลัง เนื่องจากผู้หญิงคนแรกได้ชวนไว้ก่อนแล้วนั่นเอง
12. เขาไม่เคยมองภาพอนาคตการแต่งงานกับเรา
จะเรียกว่าไม่เคยก็ไม่ได้ แต่เขาไม่รู้ต่างหาก ว่าควรวางแผนอนาคตนี้กับใคร คนแรกที่คบก็ดีแสนดี ส่วนผู้หญิงที่คบซ้อนก็น่ารักเหลือเกิน หากปล่อยใครไปคงทำใจลำบาก ขอมองข้ามเรื่องแต่งงานไปก่อน มองที่ปัจจุบันอันแสนหวานจะดีกว่า ถ้าอย่างนั้นเราควรช่วยให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้น ด้วยการเดินออกจากชีวิตผู้ชายแบบนี้มาจะดีกว่า แล้วไปหาคนที่เห็นตัวเราอยู่ในอนาคตของเขาคงดีไม่น้อย
ถ้าผู้ชายของเราไม่ใช่คนมีโลกส่วนตัวสูงเป็นทุนเดิม แต่กลับมีข้อสงสัยเหล่านี้เกินกว่า 6 ข้อ บอกได้เลยว่าเขากำลังมีพฤติกรรมคบซ้อนอยู่แน่นอน ควรพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา อย่าปล่อยให้ตัวเองเสียโอกาส ด้วยการเป็นแค่ตัวเลือกของคนอื่นจะดีกว่า