เป็นธรรมดาของความรักที่มีรักก็ต้องมีเลิก มีพบก็ต้องมีจาก ไม่มีใครหนีความจริงข้อนี้ไปได้ การเลิกราก็เป็นส่วนหนึ่งของความรัก เพราะความรักไม่ได้มีแต่ความสุข แต่ความรักมาพร้อมกับความทุกข์ที่เราพยายามปิดตาข้างหนึ่งแล้วทำเป็นมองไม่เห็นเสมอ
เมื่อถึงเวลาที่ความสัมพันธ์จบลง มักจะมีคนหนึ่งที่เสียใจมากกว่า เจ็บปวดมากกว่า กลายเป็นบาดแผลที่ทำให้เจ็บซ้ำๆ ทุกครั้งที่นึกถึง เพราะชีวิตหยุดนิ่งกับความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความผูกพัน ผสมกับความทรงจำที่เคยมีความสุขด้วยกัน ทำให้จะมูฟออนต่อก็ลืมไม่ได้ จะใช้ชีวิตโดยขาดความรักก็ไม่ได้อีก สุดท้ายก็เลยวนเวียนอยู่กับภาพเก่าๆ กลายเป็นวงกลมที่ไม่มีใครอยากเจอ
คนที่เคยผิดหวังแบบนี้มักจะรีบตามมารักครั้งใหม่ แต่รู้ไหม..คนเราไม่มีวันหนีความทรงจำเก่าๆ พวกนี้ไปได้หรอก ยิ่งรีบแค่ไหน ยิ่งพังเร็วเท่านั้น ถึงแม้การมูฟออนได้จะเป็นเรื่องดี แต่ถ้ายังไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ดีพอ ก็อย่าเพิ่งรีบมูฟออน ไม่งั้นก็ไม่มีทางหนีการมูฟออนเป็นวงกลมได้พ้น
1. คนที่ยอมรับได้เร็ว ก็จะก้าวต่อไปได้ไว
การยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของการเผชิญหน้ากับปัญหาที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม ถ้ายอมรับได้ เราก็จะผ่านมันไปได้ ในความสัมพันธ์ก็เช่นกัน เมื่อความรัก ความผูกพันมันจำเป็นต้องจบ สิ่งที่เราต้องทำนอกเหนือจากการผิดหวัง เสียใจแล้ว ก็คือการยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ชีวิตคนเรามันไม่สามารถหยุดอยู่กับที่ได้นานๆ เพราะไม่ช้าก็เร็ว เราทุกคนทำได้แค่ต้องก้าวต่อไปเท่านั้นเอง
ถึงยังไง..การยังยอมรับไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่แปลกด้วยถ้าเราจะใช้เวลากับมันสักหน่อย ทุกคนมีสิทธิ์จะใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการยอมรับอะไรสักอย่าง แต่ต้องอย่าลืมข้อสำคัญข้อหนึ่งว่ายิ่งเรายอมรับมันได้เร็วเท่าไหร่ เราจะก้าวต่อไปได้ไวมากขึ้นเท่านั้น อะไรที่ทำให้เจ็บ ให้ทุกข์ ถ้าเรายอมรับมันได้ ปล่อยวางสิ่งที่ทำให้ทุกข์ได้ เราก็จะก้าวต่อไปข้างหน้าได้แบบไม่ต้องกังวลกับอะไรทั้งนั้น
2. คนใหม่ไม่ได้ทำให้ลืมคนเก่า
คนร้อยทั้งร้อยมักเชื่อว่าการมีแฟนใหม่ทำให้ลืมแฟนเก่า และทำให้มูฟออนไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วที่สุด แต่รู้ไหม..โลกนี้มันมีคำว่า “มูฟออนเป็นวงกลม” อยู่ด้วย คือก้าวไปข้างหน้านั่นแหละ มีแฟนใหม่แล้วนั่นแหละ แต่ไม่เคยลืมความผูกพันครั้งเก่าได้สักที เผลอๆ ก็กลับมาที่จุดเดิมๆ เสียใจแบบเดิมๆ เจ็บปวดแบบเดิมๆ โดยที่คนเก่าก็ไม่เคยสนใจ แถมยังทำให้คนใหม่ต้องเจ็บอีกต่างหาก
การเข้าใจว่ามูฟออนคือการรีบมีแฟนใหม่เร็วๆ ถือว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างร้ายแรง เพราะไม่ใช่แค่เราที่เจ็บปวด แต่ยังไปทำให้คนอื่นต้องเสียใจอีกต่างหาก อย่าลืมว่าไม่มีใครแทนที่ใครได้ และไม่มีใคร..ควรทำอะไรแบบนั้นกับคนอื่นด้วย
มูฟออนคือการก้าวไปข้างหน้าก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องก้าวให้เร็ว ก้าวให้ไวเสมอไป การค่อยๆ ทำความเข้าใจ ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาแล้วค่อยๆ ก้าวไปอย่างมั่นคง ยังไงก็ดีกว่ารีบๆ แล้วตกหล่น ผิดพลาดอะไรไป ยิ่งเรื่องของหัวใจ อะไรที่รีบร้อนเกินไป ผลลัพธ์มักออกมาไม่ค่อยดีเสมอ
3. ลืมไม่ได้ ก็ไม่ต้องฝืน
อะไรที่อยากลืมกลับจำ อะไรที่อยากจำกลับลืมแหละเนอะ คนเราก็เป็นแบบนี้เสมอ เป็นกันทุกคน อยากรีบๆ ลืมก็ดันจำได้ทุกเหตุการณ์ ภาพอดีตประเดประดังเข้ามาเหมือนดูละครน้ำเน่า แต่ละครก็มาจากชีวิตจริงนั่นแหละ อะไรที่เคยเห็นในละคร มักมาจากชีวิตของใครคนหนึ่งเสมอ
การลืมไม่ได้มันก็มีเหตุผลของมัน เมื่อความรู้สึกยังชัดเจน ภาพจำยังเหมือนเดิม..การลืมก็เป็นแค่ความพยายามลมๆ แล้งๆ เท่านั้น เพราะยังไงก็เป็นไปไม่ได้ ทำไปก็มีแต่ฝืน และยิ่งทำให้จำได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
ในเมื่อลืมไม่ได้ก็ไม่ต้องลืม ไม่ต้องหาวิธีที่ทำให้ลืม แต่จงเรียนรู้ที่จะอยู่กับความทรงจำนั้นให้ได้ จำแล้วเจ็บ ก็ต้องทนเจ็บ จำแล้วเสียใจ ก็ต้องทน ต้องยอมรับให้ได้ว่าไม่มีอะไรเหมือนเดิม ความรู้สึกที่เคยมีให้กันมันจบไปแล้ว อย่างมากเราก็แค่เจ็บ แต่เราจะไม่ตาย และเวลาจะช่วยทำให้ความรู้สึกพวกนี้มันลดลงไปเอง แค่ต้องใช้เวลาและไม่ฝืนตัวเองให้ลืม เพราะมันจะยิ่งจำ
4. คนเรามีพบก็ต้องมีจาก มีรักก็ต้องมีเลิก
สัจธรรมข้อหนึ่งบนโลกนี้ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือ คนเรามีพบก็ต้องมีจาก มีรักก็ต้องมีเลิก ทุกความสัมพันธ์ปิดฉากลงได้เสมอ จะง่ายหรือยากขึ้นอยู่กับคนสองคนที่รักษาความสัมพันธ์นั้นไว้ แต่ยังไงก็ไม่มีใครหนีการพบ-จาก รัก-เลิกไปได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องมาถึง ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เมื่อมันมาถึง..เราก็แค่ต้องพยายามทำความเข้าใจว่าความรักครั้งนี้มันเดินมาสุดทางแล้ว แม้จะไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นก็ตาม แต่คนๆ เดียวทำให้ความรักเดินต่อไปไม่ได้ เมื่อเข้าใจแล้ว..เราจะทำใจและยอมรับได้เองว่าการเลิกราเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่ต้องทำก็แค่..ก้าวต่อไปเท่านั้นเอง
5. ไม่มีใครรักเราเท่ากับตัวเราเอง
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนบางคนมูฟออนไปไม่ได้สักที ก็เพราะเราเอาความสุข เอาชีวิตไปฝากไว้ที่อีกคน พอความสัมพันธ์ต้องจบ ก็ไม่แปลกที่จะเป๋ไม่เป็นท่า เพราะทุกสิ่งทุกอย่างของเราอยู่ที่เค้าหมดแล้ว จะเดินหน้าต่อก็ไม่มั่นใจ จะถอยหลังกลับก็ไม่ได้ สุดท้ายก็เหลือแต่ความกล้าๆ กลัวๆ ที่ผสมกับความทุกข์จนไม่เหลือคุณค่าในตัวเอง
ข้อดีข้อหนึ่งของเหตุการณ์นี้ก็คือถ้าผ่านไปได้ เราจะรักตัวเองมากขึ้น เพราะการจะมูฟออนหรือก้าวไปข้างหน้าได้ เราต้องรักตัวเองมากพอ ต้องเห็นความสุขของตัวเองมาก่อนความทรงจำที่ไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว ต้องเห็นความสำคัญของตัวเองบ้าง เราถึงจะไปต่อได้และไปได้อย่างดีด้วย
6. เวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะผิดหวัง เสียใจ และเสียศูนย์ไปบ้าง เมื่อต้องสูญเสียความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความผูกพันไป ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา และเวลาก็มักทำหน้าที่ของมันได้ดีเสมอ
เวลาจะคอยเยียวยาจิตใจ เยียวยาทุกอย่างที่มันพังให้หาย ให้ดีขึ้น ถึงมันจะเจ็บไปบ้าง ปวดไปบ้าง แต่เวลาจะทำให้เราหายเอง ถ้ามันยังเจ็บ ยังทำให้เราเดินหน้าต่อไปไม่ได้ แปลว่าเรายังให้เวลากับการสูญเสียนั้นไม่พอ หน้าที่ของเราก็แค่ต้องเสียใจกับมันอีกสักหน่อย ไม่ต้องรีบเดินไปข้างหน้าหรือโหยหาใคร เพราะเวลานี่แหละคือเครื่องมือชั้นดีที่จะทำให้เราหายเอง
7. ความโสดก็ไม่ได้เสียหายอะไร
เดี๋ยวนี้ใครๆ เค้าก็โสดกันเยอะแยะ ไม่เชื่อลองมองไปรอบตัว รับรองว่ามีคนโสดมากกว่าคนไม่โสดเสียอีก เพราะเดี๋ยวความโสดคือทางเลือก ไม่ใช่ปัญหา และไม่ใช่การไม่มีใครเอา แต่ความโสดคือทางเลือกของคนบางคนที่ไม่อยากพาตัวเองไปเจอความรักที่ไม่ใช่อย่างที่ต้องการ
เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่เข้าใจความโสด ก็คงต้องปรับความคิดเสียใหม่ เพราะบางทีการรีบมูฟออนเร็วเกินไป ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่กลับทำให้ตัวเองยิ่งทุกข์ ยิ่งเจ็บมากขึ้นไปอีก ลองหยุด..แล้วทำความเข้าใจความต้องการของตัวเองอย่างจริงๆ จังๆ ดูสักที บางทีคำตอบที่ดีอาจทำให้เราเข้าใจตัวเอง และเข้าใจว่าโสดก็ไม่ได้เสียหายอะไร
เอาจริงๆ ความรักเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต ใครที่เคยคิดว่าความรักคือทุกสิ่งทุกอย่าง คือทั้งหมด อาจจะต้องรีบเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ คนที่เข้าใจความรักดีพอจะรู้เองว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งความรักก็ต้องจบลง และคนเราก็ทำได้แค่ยอมรับมันเท่านั้น