ความจริงแล้วการโกหกอาจเป็นสิ่งจำเป็นในบางครั้ง เช่นการโกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจ แต่ถ้าการโกหกนั้นมาจากเพื่อนหรือคนที่คุณรัก ซึ่งเขาทำเพื่อปกปิดคุณและเมื่อคุณรู้ความจริงก็จะเจ็บปวดแสนสาหัส นั่นคือการโกหกที่เลวร้าย “โกหกครั้งแรก ก็จะมีครั้งที่สองที่สามตามมา”แล้วถ้าเราไม่อยากโดนโกหกละ เราจะจับพิรุธฝ่ายตรงข้ามได้ยังไงกัน? ในเมื่อสิ่งที่เค้าพูดก็ดูน่าเชื่อถือได้ ถามอะไรไปก็ตอบได้อย่างชัดเจนแต่คุณจะรู้ได้ไงว่าคำตอบที่คุณได้นั้นจะเป็นความจริง วันนี้ gangbeauty จะมาบอก จับโกหก 8 อาการแบบนี้ บอกเลยเนียนแค่ไหนก็ไม่รอด !
ภาพจาก il158sawinee.blogspot.com
1.ขยับศีรษะไปมาอย่างรวดเร็ว
หากคุณเห็นว่าอีกฝ่ายขยับศีรษะตัวเองไปมาในขณะที่กำลังตอบคำถามคุณอยู่ละก็ นั่นแปลว่าเขากำลังโกหกคุณอยู่ ซึ่งการขยับศีรษะนี้มักจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อตอบสนองในคำถามที่ถูกถามค่ะ
.
.
ภาพจาก www.wikihow.com
2.หายใจถี่และแรงขึ้น
ถ้าคู่สนทนาของคุณกำลังโกหกคุณอยู่ สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาจะหายใจแรงและถี่มากขึ้นจนผิดสังเกต แถมไหล่ก็จะยกสูงขึ้น
.
.
ภาพจาก il158sawinee.blogspot.com
3.พูดติดๆ ขัดๆ
การพูดติดขัด หรือพูดซ้ำไปซ้ำมากับคำเดิมๆ นั้นไม่ใช่อาการที่ปกติเลยค่ะสำหรับการพูดคุยทั่วไป เพราะอาการนี้เป็นอาการของคนที่กำลังโกหกยังไงล่ะ และที่พูดติดๆ ขัดๆ ก็เป็นเพราะว่าในเขากำลังใช้ความคิดหาคำโกหกที่ดูแนบเนียนที่สุด
.
.
ภาพจาก th.wikihow.com
4.ใช้มือแตะหรือจับที่ปาก
อีกสัญญาณหนึ่งของการโกหกที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ขณะที่พวกเขากำลังพูดคำโกหกออกมา คนเหล่านั้นจะเผลอยกมือขึ้นแตะหรือไม่ก็จับบริเวณปากซึ่งในทางภาษากายนั้นหมายความว่า เขาไม่ต้องการจะเปิดเผยอะไรบางอย่าง
.
.
ภาพจาก il158sawinee.blogspot.com
5.จับหรือแตะต้องอวัยวะบางส่วนของร่างกาย
บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมบางคนที่คุยกับเราถึงจะชอบลูบที่ต้นคอ หน้าอก ท้อง หรือแม้แต่ลูบหัวตัวเองขณะที่คุยกับเรา จริงๆ แล้วอาการนั้นเป็นอาการของคนที่กำลังปิดบังความจริงอยู่ค่ะ โดยท่าทางเหล่านั้นถือเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติเมื่อคนเราเริ่มโกหกด้วยล่ะ
.
.
ภาพจาก www.wikihow.com
6.เริ่มอธิบายเสียยืดยาว
เวลาที่ใครสักคนกำลังโกหก เขาจะเริ่มอธิบายและพูดเสียยืดยาวเพื่อหวังว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้อีกฝ่ายเชื่อ แต่จริงๆ แล้วนั่นล่ะยิ่งเป็นหลักฐานมัดตัวแน่นเลยว่าเขากำลังโกหกอยู่ เพราะโดยทั่วไปแล้วคนที่ไม่มีความลับอะไรปิดบังอยู่มักจะพูดเพียงสั้นๆ และเข้าใจง่ายมากกว่า
.
.
ภาพจาก creativedentalcare.com
7.กัดริมฝีปาก หรือเม้มปาก
การกัดริมฝีปากหรือการเม้มปากถือเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อระบายความเครียดหรือความวิตกกังวลที่มี ซึ่งเราจะสามารถเห็นได้ในคนที่กำลังปิดบังความจริง และถ้าสังเกตให้ดี คนที่มีอาการเหล่านี้ก็มักจะมีอาการพูดติดๆ ขัดๆ หรือพูดไม่ชัดเจนอีกด้วย
.
.
ภาพจาก th.wikihow.com
8. กะพริบตาถี่ขึ้น/ไม่กล้าสบตา
คงจะเคยได้ยินกันใช่ไหมคะว่าคนที่โกหกมักจะไม่ค่อยกล้าสบตากับอีกฝ่ายเท่าไร และถ้าเขาไม่สามารถหลบสายตาอีกฝ่ายได้ ก็มักจะกะพริบตาถี่ๆเพื่อเลี่ยงการจ้องตา ต่างจากคนที่พูดความจริงซึ่งมักจะจ้องตาอีกฝ่ายเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูด แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนนะ เพราะบางคนที่โกหกก็อาจจะไม่กะพริบตาเพื่อเลี่ยงการสบตา แต่จะจ้องคุณเพื่อให้คุณเชื่อในสิ่งที่เขาโกหกก็มีเหมือนกัน
.
.
ภาพจาก th.wikihow.com
9.เหงื่อออกมาผิดปกติ
อีกหนึ่งอาการคือเหงื่อออกมากผิดปกติ คนเรามักเหงื่อออกมากขึ้นถ้ากำลังโกหก การวัดปริมาณเหงื่อนั้นเป็นวิธีการที่เครื่องจับเท็จ (ที่เห็นกันบ่อยๆ ในหนัง)ตรวจจับการโกหก บางคนจะเหงื่อออกมากขึ้นถ้ารู้สึกเครียด อาย หรือมีโรคที่ทำให้เหงื่อออกมากขึ้น จึงต้องใช้วิธีนี้ประกอบกับการสังเกตกลุ่มอาการอื่นๆ ด้วย เช่น ตัวสั่น หน้าแดง กลืนน้ำลายยาก