เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการจูบเปรียบเสมือนการแสดงความรักอย่างหนึ่ง แต่หากลงลึกรายละเอียดก็จะพบว่าการจูบมีหลายรูปแบบมากๆ ซึ่งที่น่าสนใจก็คือสามารถใช้อ่านใจของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย และวันนี้ Gang Beauty ก็ได้ทำการรวบรวมคำตอบมาให้เพื่อนได้รู้กันแล้วว่า.. การจูบทั้ง 9 แบบนี้หมายความว่ายังไง? “รักจริง” หรือ “หลอกหลวง” กันแน่
จับไหล่แล้วจูบ
หากเขาจับไหล่คุณทั้งสองข้างให้โนมตัวไปก่อนที่จะจูบ นั่นอาจหมายความว่าเขาอยากจะเก็บคุณไว้เป็นของตาย เพราะช่องห่างระหว่างตัวเขากับคุณมันเปรียบได้เหมือนการตั้งใจทิ้งช่วงระยะความสัมพันธ์ ซึ่งเขากำลังเลี่ยงการใกล้ชิดกับคุณนั่นเอง
คว้าตัวไปจูบ
การที่เขาทำแบบนี้ หมายถึงได้ว่าเขากำลังบีบบังคับให้คุณเลือกทางเลือกทางเดียว นั่นคือการที่ต้องยอมจูบ เหมือนกับว่าเขากำลังบงการหรือออกคำสั่งกับคุณ ซึ่งแสดงถึงพฤติกรรมที่เขาจะเป็นผู้นำได้ดี แต่หากคุณยอมเขามากเกินไปก็จะกลายเป็นของตายได้
แตะเอวแล้วจูบ
ถ้าเขาวางมือเบาๆ ไปที่เอวของคุณก่อนจูบ แสดงว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างโรแมนติกระดับหนึ่งเลย เพราะมันคือวิธีแสดงความสนิทสนมแต่ก็ยังให้อิสระกับคุณอยู่ ซึ่งหากคุณเจอจูบแบบนี้จะรู้สึกได้ถึงความที่เขาถนุถนอมคุณ
โอบเอวแล้วจูบ
หากเขามีลักษณะที่โอบแขนเข้ามาในช่วงเอวของคุณอยู่บ่อยๆ นั่นแสดงว่าคุณโชคดีมากๆ เพราะมันสื่อถึงความเต็มใจและจริงใจที่อยากจะผูกพันกับคุณ คือกอดที่แฝงไปด้วยความรักนั่นเอง
โอบไหล่แล้วจูบ
เมื่อเขาใช้มือทั้งสองข้างพาดบนไหล่คุณ และทำให้คุณโนมตัวมาหาเขาเพื่อจูบ มันคือการที่เขากำลังทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นสมบัติของเขา และมีอำนาจเหนือคุณ ซึ่งมันอาจจะดูไม่ค่อยดีนักหากคุณต้องการความรักที่เท่าเทียมกัน
ใช้สองแขนโอบเอวและไหล่ไปจูบ
หากเขาทำท่าเหมือนราวกับว่าจะเต้นรำกับคุณ แสดงว่าเขากำลังระมัดระวังที่จะทำอะไรกับคุณ ซึ่งเขาพยายามเก็บมือไว้ในที่ที่เหมาะสม โดยเลี่ยงการสัมผัสในส่วนอื่นที่คุณอาจจะสงวนไว้
กุมมือแล้วจูบ
เป็นการจับมือแบบที่ฝ่ามือแนบกัน มันคือท่าทางที่เขาต้องการปกป้องคุณ สื่อถึงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นั่นหมายถึงความรักของคุณและเขามีโอกาสไปในทางที่ดีอย่างมาก
ประสานนิ้วมือแล้วจูบ
อาจหมายความได้ 2 อย่าง คือ เขากำลังจะอดใจไม่ไหว และการแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งการจับมือในลักษณะนี้อาจทำให้คุณรู้สึกหวิวๆ ในท้องได้ไม่แพ้การจูบเลยล่ะ
จับปลายนิ้วมือแล้วจูบ
มันหมายถึงเขาไม่ได้อยากอยู่กับคุณไปตลอดกาล เพราะเขาต้องการจะสัมผัสคุณให้น้อยที่สุด แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ตอนนั้นประกอบไปด้วย และสังเกตด้วยว่าเขาเป็นแบบนี้บ่อยแค่ไหน