ใครว่าเป็นโสดแล้วไม่ดี ชีวิตไม่แฮปปี้มีแต่ความเหงาเป็นเพื่อนแค่เพียงอย่างเดียว เพราะอันที่จริงแล้วการเป็นโสดไม่ใช่เรื่องแย่อย่างที่คิด เผลอๆอาจจะมีข้อดีมากกว่าการมีคู่เสียอีก ที่พูดมานี้ไม่ต้องกรจะปลอบใจคนโสดเลยนะ เพราะเรามีสิ่งยืนยันหลายข้อเลยว่าเป็นโสดแล้วก็สามารถมีชีวิตที่ดีมีความสุขได้ไม่แพ้กันค่ะ
ข้อดีของคนโสด
1. มีอิสระในการใช้ชีวิต
อิสรภาพเป็นสิ่งที่มีแน่นอนอยู่แล้วสำหรับคนโสด อยากจะทำอะไรก็ได้ทำ จะกิน เที่ยว เล่น นนอ ตื่นสาย นอนขลุกอยู่กับการดูซีรีย์ทั้งวันก็ยังได้ ทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง การวางแผนชีวิตก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของตัวเองล้วนๆ ทำให้คนโสดมักโฟกัสเป้าหมายของชีวิตได้ดีมากขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องคนอื่นให้มากความ ยกเว้นเรื่องของตัวเองหรือครอบครัวเท่านั้นเอง
2. ใช้เงินคนเดียวไม่ต้องหาร
นอกจากการดูแลพ่อแม่และเก็บออกมาบางส่วนไปแล้ว เงินส่วนที่เหลือทั้งหมดจากการทำงานนั้นสามารถนำมาเปย์ตัวเองได้แบบไม่อั้นจะซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางฯลฯ ก็ซื้อได้มากมายเท่าที่เงินตัวเองจะเอื้ออำนวยโดยไม่ต้องมีใครมาหาร เพราะเวลามีแฟนเชื่อว่าคนส่วนมากมักจะพากันกิน พากันเที่ยว ไหนจะของขวัญเซอร์ไพรส์ตามวันสำคัญต่างๆอีก ทำให้ในแต่ละปีหมดเงินกับส่วนนี้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว
3. ไม่เสียสุขภาพจิต
คือในข้อนี้ถ้าใครได้แฟนดี ใจเย็น มีเหตุผลก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าใครได้แฟนที่จู้จี้จุกจิกและขี้หึงควบมาด้วยแล้วละก็ เวลาทะเลาะกันทีนี่คงรู้สึกอยากจะกลับไปโสดกันอีกรอบเลยทีเดียว เพราะต้องมาคอยอธิบายเรื่องเข้าใจผิดต่างๆนาๆคอยตามง้องอน ส่วนใครมีแฟนเจ้าชู้ก็ต้องกังวลอีกว่าแฟนจะไปจิ๊จ๊ะกับใครอีกหรือเปล่า ทั้งหมดนี้ชวนให้เสียสุขภาพจิตสุดๆไปเลย ตรงนี้เลยเป็นข้อดีของคนโสดเพราะไม่ต้องประสบปัญหาเหล่านี้กันอย่างแน่นอนจ้า
4. แต่งตัวได้ตามใจ
ในข้อนี้สาวที่ไม่โสดจะเจอปัญหากันมาก เพราะแฟนหนุ่มของหลายๆคนนั้นค่อนข้างเจ้ากี้เจ้าการกับการแต่งตัวของแฟนมาก เข้าใจว่าหวงแฟนกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าบางทีคนเราก็อยากแต่งตัวสวยๆ กันบ้าง มาเจอแฟนบังคับให้แต่งตัวตามใจก็หมดอารมณ์เที่ยวกันพอดี เพราะฉะนั้นสาวโสดทั้งหลายจงดีใจ เพราะคุณสามารถจะหยิบชุดสวยแซ่บแค่ไหนมาใส่ก็ได้ ไม่มีคนบ่นว่าอย่างแน่นอนค่ะ
5. มีความสุขกับการกิน
การมีหุ่นสวยสุขภาพดีเป็นเรื่องที่ดี แต่แหม… บางทีคนเราก็อยาก Enjoy Eating กันบ้าง ถ้าคนมีแฟนแล้วปล่อยตัวจนอ้วนอาจจะได้ยินคำถามระคายหูจากปากแฟนว่า “อ้วนแล้วยังจะกินเยอะอีก”, “ตอนจีบกันแรกๆก็ผอมสวยอยู่ ตอนนี้กลายร่างเสียแล้ว” และอีกมากมายบางคู่นั้นออกแนวตลกร้ายเพราะตอนผอมก็ยังรักกันดี พออ้วนขึ้นมาทิ้งกันเฉยเลย เพราะฉะนั้นการเป็นสาวโสดจึงหมดกังวลเรื่องตรงนี้จะกินให้พุงป่องตัวแตกก็ทำได้ ไม่ต้องกลัวอ้วนแล้วโดนเทแบบหลายๆคู่ แต่ว่าถึงแม้จะกินจนอ้วนยังไงก็ได้ แต่สุขภาพก็สำคัญค่ะ เพราะฉะนั้นอ้วนได้แล้วต้องลดให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ให้ได้ด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเองค่ะ
6. มีสิทธิเลือก
ในขณะที่ยังโสดอยู่แล้วถ้าอยากศึกษาดูใจใครสักคน คนโสดจะเดทกับใครก็ได้ ที่คนก็ได้แล้วแต่ความพึงพอใจ ถ้าโอเคก็ศึกษากันต่อ ถ้าไม่พอใจก็เปลี่ยนคู่เดทใหม่เท่านั้นเอง มันเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างมีความอิสระสูง มีความสบายใจ ไม่ต้องมีใครมาคอยตามหึงหวงหรือผูกมัด
7. สังสรรค์กับเพื่อนได้เต็มที่
ถ้ามีแฟนการจะไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนน่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายมากนัก เพราะยังไงแฟนก็ย่อมอยากให้กลับบ้านเร็วอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามองในมุมของการเที่ยวอาจไม่ค่อยสนุกเท่าใดนัก แต่ถ้าโสดย่อมเที่ยวกับชาวแก๊งได้อย่างเต็มเหนี่ยว หากมีหนุ่มสาวมาขอไลน์ขอเบอร์ก็สามารถให้ได้แบบที่คนมีคู่ทำไม่ได้อย่างแน่นอน
8. อ้วนยากกว่า
มีงานวิจัยจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมนีพบว่าคู่แต่งงานมีแนวโน้มทานอาหารดีกว่าคนโสดแต่ว่าไม่ค่อยออกกำลังกายมากเท่าใดนัก ทำให้มีน้ำหนักมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับผู้ชายจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 2 กิโลกรัมในช่วงที่กำลังเป็นคุณพ่อมือใหม่ ส่วนคุณแม่เองหลายคนก็อ้วนหลังคลอดเช่นเดียวกัน
9. เข้าสังคมได้ดีกว่า
คนโสดมีแนวโน้มที่จะติดต่อกับพ่อแม่ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงมากกว่าคนที่มีครอบครัวแล้ว จึงรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้ได้ดีกว่า มีโอกาสปลีกตัวจากสังคมได้น้อยลง
ข้อเสียของคนโสด
เหรียญย่อมมีสองด้านฉันใด การเป็นโสดย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียฉันนั้น เมื่อพูดถึงข้อดีด้านบนไปแล้วก็มาดูข้อเสียของการเป็นคนโสดกันบ้างดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
1. ไม่มีคู่คิด
นอกจากพ่อแม่และเพื่อนสนิทแล้ว แฟนก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่น่าจะรู้ใจเรามากที่สุด เป็นที่ปรึกษาและสามารถระบายความทุกข์ได้เมื่อชีวิตต้องเผชิญกับปัญหา ในบางครั้งคนเราก็แก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ไม่ดีมากนัก การได้มุมมองจากบุคคลที่สองถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากเพราะอาจจะทำให้เรามองเห็นทางแก้ปัญหาในแบบที่เราคาดไม่คิดมาก่อนเลยก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นบางครั้งแฟนก็สามารถให้ข้อคิดคำแนะนำดีๆ ที่จะนำไปปรับใช้แก้ปัญหาได้ค่ะ
2. เหงา
คนโสดมีข้อดีในแง่ของความมีอิสระก็จริงอยู่ แต่บางคนที่โสดสนิทไม่มีคนคุยเลย ก็ต้องทำทุกอย่างคนเดียว เที่ยวคนเดียว กินข้าวคนเดียว แชทก็เงียบกริบจนน่าจะนำสมาร์ทโฟนไปเป็นที่ทับกระดาษแทนที่จะเป็นโทรศัพท์ แน่นอนว่าชีวิตเงียบๆแบบนี้คงทำให้รู้สึกเหงาไม่น้อยเลยทีเดียว
3. ไม่มีคนดูแล
เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยคนโสดก็ต้องหาหยูกหายาทานเอง คนป้อนข้าวเช็ดตัวก็ไม่มี ถ้าป่วยคราวไหนอาการหนักหน่อยก็คงต้องพึ่งพาพ่อแม่ เหมือนย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กๆกันอีกครั้ง จะว่าไปแล้วคิดในแง่นี้ก็แอบน้อยใจโชคชะตาอยู่นิดๆเหมือนกันนะเนี่ย
4. ไม่รู้จะเลือกใครดี
ในขณะที่บางคนโสดก็จริง แต่มีคนคุยมากมายจนเลือกไม่ถูก คนที่คุยมาก่อนแล้วก็เยอะ คนที่มาใหม่ก็เพียบอย่างกับคล้องป้าย “โสด” ห้อยคอเอาไว้อย่างไงอย่างงั้น ซึ่งพอเยอะเกินไปคราวนี้ก็เลือกกันไม่ถูก ไม่รู้จะคุยกับใครดีหรือจะแบ่งเวลาคุยยังไงให้เท่าเทียมกัน เอ๊ะ!!! แล้วตกลงนี่มันเป็นข้อดีหรือข้อเสียกันแน่นะ
5. อิจฉาตาร้อน
สำหรับคนโสดที่เลือกอจะโสดเองอาจจะไม่มีปัญหานี้ แต่คนโสดจำยอมหลายคนต้องรู้สึกตาร้อนผ่าวจนอยากเอาน้ำแข็งมาโปะตากันอย่างแน่นอนเวลาเห็นคู่รักเดินจูงมือกันหรือมีโมเมนท์สวีทหวานซึ่งกันและกัน ยิ่งวันวาเลนไทน์นี่นรกชัดๆ เรียกว่าต้องปิดบ้านล็อคห้องเพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตากันเลยทีเดียว เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจโมเมท์อิจฉานี้ ไม่อย่างงั้นคงไม่มีเทรนด์ทวิตเตอร์ #โสดแล้วพาล ให้เห็นกันในช่วงวาเลนไทน์หรอก จริงไหม?
กิจกรรมคนโสด
มองไปรอบกายก็เห็นแต่คนมีคู่ แม้แต่เพื่อนสนิทก็มีเช่นเดียวกัน พอเป็นโสดท่ามกลางคนมีความรักมันก็จะดูเหงาเล็กน้อย แต่เหงาได้ก็หายเหงาได้เพราะชีวิตมีกิจกรรมสนุกๆให้ทำอีกเพียบที่สามารถทำได้แบบไม่ต้องมีคู่ ดังนี้
– อ่านหนังสือเล่มโปรด ชีวิตคือการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นอยากให้คนโสดลองหาหนังสือที่ถูกใจมาอ่านดูสักเล่ม ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือที่มีความวิชาการอะไรมากมาย เพราะต่อให้เป็นนิยายก็สามารถให้อะไรกับคนอ่านได้เช่นเดียวกัน จะอ่านอยู่ที่บ้านหรือเอาไปอ่านพร้อมกับจิบชากาแฟตามคาเฟ่ชิคๆ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะ
– ออกกำลังกาย การออกกำลังกายควรเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวัน เพราะมันจะช่วยลดโฟกัสในเรื่องอื่นๆลงไป ช่วยฝึกเรื่องการจัระเบียบชีวิตและทำให้แบ่งเวลาได้ดีมากขึ้น รับรองว่าทำแล้วจะไม่เบื่อไม่เหงาแต่จะเหนื่อยแทน แต่รับรองว่ามันจะเป็นความเหนื่อยที่คุ้มค่ามากแน่นอน
– ทำอาหาร เรื่องกินใครๆก็ชอบ เพราะฉะนั้นการลองฝึกทำอาหารชนิดต่างๆจึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย จะทำแค่อาหารไทย 4 ภาคหรืออาหารนานาชาติด้วยเลยก็ได้ การทำอาหารสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจากหนังสือและคลิปวิดิโอที่มีสอนตามโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ นอกจากเป็นการใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์แล้ว ยังได้ทักษะการทำอาหารเพิ่มขึ้น เอาไว้ทำกินเองหรือทำให้ครอบครัวด้วยก็ได้ รับรองถูกใจคนกินอย่างแน่นอน
– ใช้เวลาไปกับครอบครัว ถึงแม้จะไม่มีแฟน แต่ก็ยังมีครอบครัวอยู่ แนะนำว่าหาเวลาว่างกลับไปดูแลบ้านและครอบครัวบ้างนอกจากจะช่วยให้ตัวเราไม่เหงาแล้ว สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆก็จะมีความสุขและไม่เหงาด้วยเช่นเดียวกัน
– ออกไปเที่ยว หาเวลาว่างออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าง อาจจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือจะเลือกไปเที่ยวในจังหวัดใกล้ๆแบบ One Day Trip ก็ดีไม่แพ้กัน การออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาบ้างเปรียบเสมือนการเรียนรู้โลกกว้าง เติมเต็มความสนุกสนานและประสบการณ์ที่ดีให้กับชีวิต
– ทำสวยที่บ้าน ถึงแม้การไปทำสวยนอกบ้านไม่ว่าจะมาร์กหน้า ทำผม ทำเล็บ นวดสปาต่างๆ จะเป็นอะไรที่สะดวกสบายดี แต่มันกลับไม่ค่อยสบายกระเป๋าเท่าใดนัก จึงอยากแนะนำให้เปลี่ยนมาลองทำเองที่บ้านกันดูบ้าง ซึ่งมันอาจจะเสียเงินซื้ออุปกรณ์สักเล็กน้อย แต่คุ้มค่ากว่ามากเพราะสมารถใช้ได้นาน ครีเอทความสวยงามได้ตามใจ จะใช้เวลาทำเท่าไหร่ก็ได้ไม่มีกำหนด สวยได้ดั่งใจสบายกระเป๋าเลยทีเดียวค่ะ
– รับงานฟรีแลนซ์ ลองค้นหาความสามารถที่มีแล้วนำมาพัฒนา มันอาจสร้างประโยชน์และรายได้งามๆ ขึ้นมาได้ เช่น การถ่ายรูปแล้วขายตามเว็บสต็อก รับเขียนบทความ รับทำเว็บไซต์ รับแปลภาษา เป็นต้น สามารถทำเป็นงานฟรีแลนซ์ควบคู่ไปกับงานประจำได้เลย หากมีความชำนาญมากงานฟรีแลนซ์ที่เป็นเพียงงานเสริมอาจกลายเป็นงานประจำเลยก็ได้ค่ะ
อันที่จริงแล้วมันบอกไม่ได้หรอกค่ะว่า การเป็นโสดหรือไม่โสดแบบไหนดีกว่ากัน เพราะว่าการมีความสุขนั้นมันมีปัจจัยอื่นๆมาเกี่ยวข้องอีกหลายประการด้วยกัน เพียงแต่เราต้องการจะบอกว่าถ้าเป็นโสด มันไม่แย่อย่างที่คิดเลย คนโสดสามารถใช้ชีวิตอย่างสตรองและมีความสุขได้ในแบที่คนมีคู่ไม่มีทางเข้าใจ แน่นอนว่าข้อเสียมันก็ย่อมมีบ้างตามธรรมชาติของมนุษย์ แต่ว่าถ้าปรับเปลี่ยนมุมมองสักนิดการใช้ชีวิตโสดแบบสุขๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ