เป็นคนรัก ไม่ได้แปลว่า เป็นเจ้าของชีวิตใคร
อย่าลืมว่า? เราต่างก็มีหัวใจของตัวเอง
รักในวัยหนุ่มสาว อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล
คุณก็ยังไม่เข้าใจคำนี้หรอก
ตราบใดที่คุณยังไม่มี “ภาระ”
เมื่อคุณโตขึ้น พ่อแม่แก่ตัวลง แล้วเราต้องดูแลท่าน
ภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบมากมาย
มันมีความสำคัญมากกว่า
รักแบบในวัยหนุ่มสาวที่เราเคยเจอกัน
และเมื่อคุณมีภาระ
คุณจะรู้สึกว่า ความรักไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
รักๆเลิกๆ กลายเป็นเรื่องน่ากลัว
สำหรับคนวัย 30+ ที่ควรจะจริงจังกับความรัก
การมีแฟนที่มีเป้าหมายเดียวกัน เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
หากทัศนคติไม่ตรงกัน ชีวิตคู่ก็อยู่ยาก
อยู่แบบโสดยังดีกว่า ต้องทนเสียเวลาชีวิต ในวัยที่คิดมีครอบครัว
โตแล้ว.. ความรักไม่ใช่เรื่องง่าย
โตแล้ว .. คุณจะเข้าใจ ว่าอะไรสำคัญไปกว่า “แค่รักกัน”
เราทุกคนไม่มีใครเกิดมาเป็นเจ้าของชีวิตกัน
การแต่งงาน ไม่ใช่การเป็นเจ้าของชีวิต
แต่เป็นการแชร์ชีวิตที่เหลืออยู่กับคนที่เรารัก
โชคดี ก็อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า แต่หากไปด้วยกันไม่ได้
ความคิดไม่ตรงกัน หรือ มีอีกฝ่ายนอกใจ
เราก็ต้องคืนชีวิต คืนอิสระให้เขาไป
และ คืนชีวิต คืนอิสระให้กับตัวเอง
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หรือ อยู่ในสถานะไหน
รักจะมีอยู่ หรือ ไม่ก็ตาม
การทำตัวให้มีค่า และ รักตัวเอง คือ คำตอบที่ดีที่สุด
เพราะหากวันนึงที่เขาไม่รัก
สุดท้ายคนที่เหลืออยู่ และ รักเรามากที่สุด
ก็คือ .. ตัวเราเอง
คู่รักไม่ใช่เจ้าของชีวิตกันและกัน
อย่าฝากชีวิตเราทั้งหมด ให้คนอื่นดูแล
แต่งงานแล้วยังเลิกรากันได้
รักวันนี้ พรุ่งนี้อาจหมดรักก็เป็นได้
ชีวิตควรมีแผนสองไว้ตลอด
โดยเฉพาะเรื่อง “เงิน”