เขาหรือเธอคนนั้น มีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่หรือไม่
ถึงคนที่กำลังดูใจกับใครซักคนอยู่นะคะ นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับความรักของคุณ แต่ก่อนที่คุณคิดว่า คุณอาจจะขอให้เธอ หรืออนุญาตให้เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแบบจริงจัง อยากให้คุณได้ลองคิดดูว่า เขาหรือเธอคนนั้น มีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่หรือไม่ อย่างน้อยมันก็เป็น checklist เล็กๆ สำหรับก้าวที่ใหญ่อีกก้าวในชีวิตค่ะ
1. เขาเป็นคนเปิดเผยและจริงใจ
ถ้าคุณได้เจอคนที่เปิดเผยและตรงไปตรงมากับคุณแบบสุดๆ ยินดีด้วยค่ะ คุณน่าจะได้พบคนๆ นั้นของคุณแล้ว เพราะในโลกปัจจุบันเนี่ยนะคะ บางทีรู้หน้าก็ไม่รู้ใจ แรกๆ เป็นแบบ สนิทๆ กันเป็นอีกแบบ แถมบางทีก็บังคับให้เรารักเขาในแบบที่เขาเป็นอีก
คนที่ปากตรงกับใจ และไม่กลัวที่จะพูดความจริง (ถึงแม้ว่า ความจริงอันนั้นอาจจะทำให้เจ็บปวด) จะเป็นคนประเภทที่คุณไว้วางไว้ใจได้ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะไม่ซ่อนคุณจากอะไร และไม่ซ่อนอะไรจากคุณ
2. เขามีเวลาให้คุณเสมอ
ในโลกที่แสนจะสับสนอลม่าน ทุกคนใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ เวลาชวนไปไหน ทำอะไร ทุกคนก็จะบอกว่า อืม ช่วงนี้ ยุ่งๆๆ เพราะงั้น ถ้าจะมองหาเพื่อนคู่คิด หรือคนพิเศษซักคน เขาหรือเธอคนนั้น ควรจะเป็นคนที่มีเวลาให้คุณ ไม่ใช่คนที่ให้คุณมานั่งรอ (และมาช้าบ่อยๆ)
ถึงแม้ว่า อาจจะมีธุระรัดตัวก็จริง แต่ถ้าเจียดเวลามาให้กันบ้าง ได้ใช้เวลาร่วมกันบ้าง ก็คงจะทำให้มีความสุขกันไม่น้อยใช่มั้ยคะ? เวลาเป็นสิ่งล้ำค่ามากที่สุดอย่างหนึ่งที่คนจะให้แก่กัน เพราะมันเป็นสิ่งที่ได้แต่ผ่านเลยไป ย้อนคืนมาไม่ได้ จงรักและซึ้งใจคนที่ให้เวลากับคุณนะคะ
3. เขาหัวเราะเยาะตัวเองได้
คุณควรจะมองหาคนที่มีอารมณ์ขัน ไม่จู้จี้จุกจิกกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพราะอะไรรู้มั้ยคะ? คนที่สามารถหัวเราะกับเรื่องบ้าๆ บอๆ ที่ตัวเองทำได้ เป็นคนที่ไม่ตึงเครียด ไม่ค่อยมีอีโก้ และมักจะทำให้คนที่อยู่รอบๆ ตัวรู้สึกสบายใจ จึงเป็นคนที่เหมาะกับการเป็นคนที่จะใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันค่ะ
4. เขารู้จักที่จะเห็นอกเห็นใจคนอื่น
เดี๋ยวนี้ ใครๆ ก็เอาแต่เรื่องของตัวเองไว้ก่อน มันเลยทำให้คนที่สามารถเอาใจเขามาใส่ใจเราและเห็นอกเห็นใจคนอื่นได้ถือว่าเป็นบุคคลที่ประเสริฐเลิศล้้ำ ดังนั้น ถ้าคุณได้เจอคนที่ฟังคุณบ่นเรื่องความทุกข์ ความเศร้าเสียใจ และและพยายามที่จะเอาใจใส่กับคุณ รักษาเขาหรือเธอไว้ให้ดีๆ นะคะ เพราะ “ความเข้าอกเข้าใจ” เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ (ไม่ว่ามันจะเป็นการกระทำที่ดีหรือร้าย) และไม่รีบด่วนตัดสินกัน เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยาค่ะ
5. เขาเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่คุณควรมองหาจากคนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกับคุณ คือ การยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง การที่พูดได้ออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำว่า “โอเค ฉันผิดเอง” และพยายามปรับปรุงแก้ไข ไม่ให้ตัวเองทำผิดซ้ำ คุณควรเลี่ยงที่จะอยู่กับคนที่ชอบโยนความผิดให้คนอื่น โทษสิ่งต่างๆ รอบตัว หรือไม่ก็นั่งเงียบๆ แบบที่ไม่พูดอะไรเลย (เพราะถ้าเขาทำแบบนั้นกับคนอื่นได้ เขาก็ทำแบบนั้นกับคุณได้เหมือนกัน) การยอมรับผิดและตั้งใจแก้ไขเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะถ้าเรารู้ว่าเราผิดและแก้ไขได้ เราจะเป็นคนที่ดีขึ้น แถมยังช่วยทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เราอาจจะพบได้เวลาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับใครซักคนลง และไม่เกิดขึ้นแบบซ้ำซากให้น่าระอาใจด้วยค่ะ
6. อดีตของเขาไม่ลึกลับซับซ้อน
ถ้าคุณเจอคนที่เล่า ความผิดพลาดที่เขาเคยทำมา เล่าเรื่องแฟนเก่า (ในทางที่ไม่ใช่การให้ร้าย) ให้คุณฟังทุกอย่าง รู้ไว้นะคะว่าคุณเป็นคนที่โชคดีมาก การหาใครซักคนที่ไม่ปิดบังอะไรซักอย่างจากคุณเจอเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยหรอกค่ะ
การที่ใครซักคนจะยอมเล่าความจริงกับคุณ (ถึงแม้ว่าความจริงนั้นมันอาจจะทำให้เขาเสี่ยงเสียคุณไป) มากกว่าที่จะโกหกคุณเกี่ยวกับเรื่องร้ายๆ ของเขาเป็นเรื่องกล้าหาญมากนะคะ ถ้าได้เจอแล้ว อย่าไปติดใจเรื่องในอดีตของเขาเลยค่ะ คุณควรจะขอบคุณเขาที่ยอมเล่าเรื่องแบบนี้ให้คุณฟัง และเก็บเขาไว้กับตัวให้ดีทีเดียวเชียว
7. เขาไม่อายที่จะร้องไห้
อันนี้ดูเป็นเรื่องที่ค่อนไปทางผู้ชายนิดนึงนะคะ “การร้องไห้” เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครชอบแสดงออก และมักจะถูกมองว่าเป็นสัญญาณของ “ความอ่อนแอ” แต่ถึงแม้ว่าคนส่วนมากจะมองแบบนั้น การร้องไห้ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยปลดปล่อยคุณจากความเจ็บปวด (รู้มั้ยคะว่า ถ้ารู้สึกแย่แล้วไม่ร้องไห้ออกมา มันจะเปลี่ยนเป็นความโกธรแทน) และยังเป็นสิ่งบ่งบอกว่า เขาคนนั้นไม่ใช่หุ่นยนต์ เขาอ่อนไหวรับรู้และมีปฏิกิริยาโต้ตอบความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ได้ รวมถึงบอกได้ว่า เขาเป็นคนกล้าที่จะเปิดเผยความอ่อนแอให้คุณเห็น
ถ้าเขาหรือเธอคนนี้มีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่ ยินดีด้วยนะคะ คุณได้เจอคนที่ดีและเหมาะสมที่จะเดินก้าวต่อไปข้างหน้ากับคุณ แต่ถ้าคนพิเศษของคุณไม่ได้มีลักษณะแบบนี้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาหรือเธอไม่ดีนะคะ มันแค่หมายความว่า คุณและอีกฝ่ายอาจจะต้องปรับตัวกันเยอะหน่อย ถ้าคิดว่าจะต้องใช้ชีวิตร่วมกัน ลองคุยกันดูก็ได้ค่ะ ว่าทั้งคู่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้บ้างหรือเปล่า