คุณเป็นตัวสำรอง อยู่หรือไม่
เชื่อว่าใครๆ ก็คงไม่อยากเป็นตัวสำรองของใครหรอกจริงไหมคะ มีความรักทั้งทีก็อยากจะมีความสุขและรักกันยืนยาวกันทั้งนั้น ไม่ใช่มัวมาปิดบังแอบวซ่อน แบบนี้จะมีความสุขได้ยังไง งั้นวันนี้เราลองมาดู 5 พฤติกรรมที่แสดงให้รู้ว่าเราเป็นตัวสำรองหรือไม่ ไว้กันก่อนเลยดีกว่า…
1. พฤติกรรมเป็นเจ้าของแค่เพียงกาย
ยุคนี้สมัยนี้…การได้จับมือถือแขน หรืออาจเลยเถิดไปไกลกว่านี้มากมาย ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณกับเขาหรือเธอจะมีความลึกซึ้งกินใจถึงขั้นว่าจะได้นั่งในตำแหน่งตัวจริงหรอกนะ เพราะนั่นอาจกลายเป็นว่าเขาหรือเธออาจทำลงไปเพื่อสนองความต้องการที่ขาดหายไปของตัวเองก็เป็นได้ เอาเป็นว่าถ้ายังไม่มีคำยืนยันใดๆ ออกมาจากปากของเขาหรือเธอเอง ก็อย่าได้เชื่อว่าคุณจะไม่มีทางเป็นตัวสำรอง
2. พฤติกรรมที่ไม่เคยได้รู้จักคนอื่นเลยนอกจากตัวเขาหรือเธอคนเดียว
เรียกว่าเขายอมให้คุณรู้จักทุกอย่างที่เป็นตัวตนของเขาหรือเธอแบบหมดเปลือก แต่อย่าได้หวังว่าคุณจะได้ไปร่วมก๊วนกับเพื่อนสนิทของเขาหรือเธอ หรือแม้แต่ได้เห็นหน้าว่าที่พ่อแม่ในอนาคตก็ยังไม่มีโอกาสอันนี้ก็ทำใจไว้ล่วงหน้าได้เลย เพราะถ้าสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนไป ก็แปลว่าเก้าอี้ตัวสำรองที่คุณนั่งอยู่ก็ไม่ได้หายไปเช่นกัน….
3. พฤติกรรมที่พูดถึงแต่คนรักเก่า…หรือใหม่ให้ฟังตลอดเวลา
ไม่ว่าคุณจะคลุกคลีสนิทสนมกันมากแค่ไหน แต่ถ้าคุณยังต้องทนฟังเขาหรือเธอเล่าเรื่องของอดีตคนรัก ว่าอดีตที่ผ่านมาเป็นยังไง มันอาจไม่ได้แปลว่าต้องการให้คุณทำให้ดีกว่านี้หรือต้องปรับตัวยังไง แต่อาจจะหมายความว่าเธอหรือเขายังทำใจลืมรักที่ผ่านมาไม่ได้ หรือในอีกกรณีที่คุณต้องรับรู้ว่าเธอหรือเขาไปเจอใครคนใหม่มาบ้าง และมีอะไรดีกว่าคุณหรือแย่กว่าคุณยังไง นั่นก็อาจไม่ได้แปลว่าต้องการให้คุณหึงนะ เพราะเค้าหรือเธออาจจะแค่ถามความเห็นคุณเฉยๆ ก็ได้
4. พฤติกรรมที่คุณไม่ใช่คนเดียวที่ได้ออกไปเดตกับเขาหรือเธอ
นิยามคำว่าเดตในที่นี้ พูดง่ายๆ ก็คงไปกินข้าว ดูหนัง นั่งรถเล่น และต่อด้วยกิจกรรมอื่นๆ ที่คนเป็นเพื่อนไม่ค่อยทำกัน แต่การที่เขาหรือเธอยอมให้คุณเข้าไปอยู่ในกิจกรรมเหล่านั้นด้วย ก็ไม่ได้แปลว่าเขาหรือเธอจะยินยอมมอบสถานะพิเศษให้คุณหรอกนะ เพราะบางทีนี่อาจสิ่งที่เขาและเธอทำเป็นปกติกับคนอีกหลายๆ คนอยู่แล้วก็เป็นได้ ฉะนั้นถ้ายังไม่มั่นใจว่ามีเพียงคุณเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์พิเศษนี้ ก็เผื่อใจไว้หน่อยนะ
5. พฤติกรรมที่แสดงสถานะคลุมเครือ…
หลังจากผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดมาแล้ว คุณอาจอยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหมือนจะมีความสุขที่ได้มีเขาหรือเธออยู่ข้างๆ แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่าสถานะที่ตัวเองเป็นอยู่นั้น มันเรียกว่าอะไรกันแน่ ครั้นจะถามออกไปก็ไม่กล้า กลัวจะเงิบกลับมา แต่ครั้นจะอยู่ต่อไปแบบนี้ก็เหมือนอยู่บนเรือที่มองไม่เห็นฝั่ง แหม่ ถ้าเจอแบบนี้ก็ไม่ต้องสงสัยแล้วครับ ว่าตัวเองเป็นผู้เล่นตำแหน่งไหนกันแน่