นอกจากการแต่งงานจะเป็นวิธีการแสดงความรักและให้เกียรติต่อคู่รักที่จะต้องมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้ว การแต่งงานยังเป็นการแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของให้คนภายนอกรับรู้ว่าคนสองคนนี้มีสถานะภาพเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ คนอื่นห้ามยุ่ง แต่ถึงอย่างนั้นชีวิตหลังแต่งงานก็ไม่ได้การันตีว่าชีวิตคู่ของคุณจะมีความมั่นคงเสมอไป วันหนึ่งวันใดอาจจะมีคนอื่นมาทำให้ความสัมพันธ์ของชีวิตคู่สั่นคอนก็ได้ หากคุณมัวแต่ทำงาน มัวแต่คิดว่าเขาเป็นคู่ชีวิตแล้ว จะปล่อยปะละเลย ทำเมินเฉย ปล่อยชีวิตรักให้ราบเรียบยังไงก็ได้
แต่ละคนมีหน้าที่เป็นของตัวเอง คุณและแฟนไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกที่ ที่ทำงานหรือที่ออฟฟิศของเขาอาจจะมีคนอยากสนิทชิดเชื้อกับแฟนของเราก็ได้ เพราะฉะนั้นนอกจากคู่รักจะต้องหมั่นเติมความหวานให้ความรักมีเรื่องน่าค้นหาเพื่อที่คุณจะได้ไม่รู้สึกเบื่อกันแล้ว การแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ใช้เป็นการ “อวดแฟน” แต่เป็นการแสดงสิทธิฐานะของชีวิตคู่ให้คนอื่นรับรู้ว่าคุณและแฟนยังรักกันอยู่ งั้นเรามาดูกันว่าคู่รัก วิธีการแสดงความรักต่อกันแบบไหนบ้างที่คนอื่นเห็นจะต้องอิจฉา ไม่ว่าคุณจะเป็นคู่รักที่แต่งงานกันมาแล้วนานแค่ไหนก็ตาม
ถ่ายรูปคู่โพสลงโซเชียลบ้าง
คู่รักหลายคู่มักจะไม่ชอบแสดงความรักแบบเปิดเผย ชนิดว่าโพสลงโซเชียลมันให้ความรู้สึกขัดเขิน กลัวว่าเพื่อนจะมาแซ่วบ้าง กลัวถูกมองว่าเป็นคน “อวดแฟน” โดยเฉพาะคู่ที่แต่งงานกันแล้วจะยิ่งมีรูปคู่กันน้อยลง ทั้งที่ความจริงแล้วการถ่ายภาพคู่ลงโซเชียลเป็นวิธีแสดงความรักที่ธรรมดามากๆ เป็นเบสิคทั่วไปของคู่รักที่ไม่ว่าจะก่อนแต่งงานหรือหลังแต่งงานก็ทำให้เป็นเรื่องปกติได้ ถ้าไม่เป็นการถ่ายรูปที่มากจนเกินไป ไม่ว่าใครจะมองคุณกำลังอวดแฟน ก็อย่าได้แคร์ แฟนมีคนเดียว ถ้าไม่อวดแฟนแล้วจะให้อวดใครล่ะเนอะ
ใส่เสื้อคู่
แปลกที่คู่รักมักจะมองว่าการใส่เสื้อคู่เป็นเรื่องไร้สาระ ทั้งที่การใส่เสื้อคู่เป็นรูปแบบการแสดงความรักที่บ่งบอกว่าคุณกำลังอินเลิฟ โดยร้อยละ 70 % ของผู้ชายที่ไม่ชอบใส่เสื้อคู่บอกว่าดูเป็นเรื่องตลกและมองว่าคนรักกันอยู่ที่ใจไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นก็รักกันได้ แต่งงานแล้วไม่จำเป็นต้องหวานแหววมากมายนักก็ได้ แต่เสื้อคู่มันไม่ใช่ว่าจะใส่กับใครก็ได้ “เสื้อคู่” มันต้องใส่คู่กัน ถ้าไม่ให้ใส่กับแฟนแล้วจะให้ใส่กับใคร เสื้อคู่มันจะดูน่ารักมุ้งมิ้งมากน้อยอยู่ที่การมิกซ์แอนด์แมชท์ ไม่จำเป็นต้องใส่แบบสกีนเสื้อโชว์หราก็ได้นิ นี่เป็นวิธีการแสดงความรักที่คุณสองคนไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ คนอื่นก็อิจฉาได้แบบไร้เหตุผลเชี่ยวนะ
ควงกันไปไหนมาไหน
ตามธรรมดาแล้วคู่รักซึ่งไม่ว่าจะที่แต่งงานกันแล้วหรือยังไม่แต่งงานก็ตามที มักจะมีช่วงเวลาอิสระที่จะได้อยู่กับตัวเอง ได้อยู่กับเพื่อน ออกไปไหนมาไหนคนเดียวบ้าง แต่อย่าเที่ยวทำให้เป็นนิสัยหรือความเคยชินเชี่ยวล่ะ เพราะคนอื่นเขาคงไม่รู้เรื่องภายในครอบครัวดีเท่าคุณสองคน เขาจะมองว่าคุณและแฟนกำลังระหกระแห่งกันอยู่ก็ได้ ความสัมพันธ์ไม่ค่อยสวีตหวาน เพราะในสายตาของคนนอกจะมองเสทอว่า คนรักกันมักจะอยากอยู่ด้วยกันทุกที ถ้าตัวติดกันคู่นี้กำลังอินเลิฟแน่นอน แต่ถ้าชีวิตคู่ของคุณมีความพิเศษกว่าคู่อื่นๆ แค่ไม่ค่อยได้มีเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน ก็ควรจะควงกันไปให้เพื่อนฝูงได้เห็นบ้าง อย่างน้อยๆ เวลาไปสังสรรค์หรือไปงานแต่งงานเพื่อ
แสดงออกว่าหวงด้วยสัมผัส
การแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ อย่างการจูงมือหรือเดินโอบไหล่กัน สำหรับคู่รักที่แต่งงานกันมานานแล้ว เป็นโมเม้นต์น่ารักที่เรามักไม่ค่อยได้เห็น ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นหรือคู่รักที่เพิ่งคบกันใหม่ๆ ทำให้การแสดงความรักในที่สาธารณะ อย่างการโอบเอวหรือจับมือกันเป็นเรื่องแปลกในสังคมไทย ทั้งที่ความจริงแล้วนั้น หากได้เห็นคู่รักต่างประเทศไม่ว่าจะรักกันมานานเท่าไหร่ ก็ยังคงเดินจับมือกันตลอด ซึ่งนอกจากการแสดงออกถึงความรักแบบนี้จะเรียกความอิจฉาคนรอบข้างแล้ว การสัมผัสเล็กๆ ยังแสดงให้คู่รักของคุณเห็นว่าคุณทั้งคู่ หวงและห่วงกันมากแค่ไหนอีกด้วย
สวมแหวนแต่งงานให้ทุกคนรู้ว่าแต่งงานแล้ว
การที่คู่แต่งงานสวมแหวนแต่งงานติดตัวอยู่เสมอ ไม่ใช่เพียงแค่เป็นสิ่งของแทนใจของคู่แต่งงานเท่านั้น แต่แหวนแต่งงานยังบอกถึงสถานะว่าคนที่สวมใส่แหวนนิ้วนางข้างซ้ายว่าเป็นคนที่มีเจ้าของจับจองไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นการแสดงความรักความซื่อสัตย์ต่อกัน ทั้งแฟนทั้งต่อหน้าและลับหลัง เป็นกิมมิคเล็กๆ ที่แสนจะธรรมดาแต่มีความหมายมากหากแฟนของคุณใส่แหวนอยู่ตลอด ไม่ใช่แค่เขาอยากให้คนอื่นรับรู้ว่าเขาเป็นของคุณ แต่ยังเป็นการแสดงความรักเรียบๆ ที่มีความหมายสุดลึกซึ้งอีกด้วย
ถึงคุณจะมีวิธีแสดงความรักให้คนอื่นรู้สึกอิจฉาเพียงใด แต่ต้องไม่ลืมว่าความรักที่จะทำให้คู่รักคู่แต่งงานครองรักกันยืนยาวต้องมีพื้นฐานที่เกิดจจากความรัก ความซื่อสัตย์และความไว้ใจต่อกัน ซึ่งไม่ว่าจะมีวิธีแสดงความรักอย่างไร ก่อนแต่งงานและหลังแต่งงานยังสวีตหวานเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยเปลี่ยน เพียงเท่านี้ทุกคนบนโลกก็อิจฉาคุณแล้ว