ช่วงแรกที่เริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครสักคน ใครๆ ก็ต้องเคยกลัวทั้งนั้น ทำตัวแบบนี้ เขาจะไม่ชอบเรามั้ย กลัวที่จะเป็นฝ่ายโทรไปหาก่อน อย่างไรก็ตามแดเนียล โอลีรี่ นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยสโตนี่บรู๊ค ชี้ว่า ความรู้สึก และความสัมพันธ์ของคู่รักจะแนบแน่นกลมเกลียวกันขึ้น เมื่อผ่านการอยู่ด้วยกัน 10 ปีขึ้นไป นั่นคือความพิเศษของ ความสัมพันธ์ระยะยาว ที่คู่รัก ที่ผ่านอะไรๆ มาด้วยกันเท่านั้นจึงจะเข้าใจ
9 เรื่องที่ คนมีรักมั่นคง
และ ความสัมพันธ์ระยะยาว เท่านั้น ถึงจะเข้าใจ
ความสัมพันธ์ระยะยาว
:: ไม่รู้สึกกลัวเมื่อคนรักมีแผนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ::
เรื่องหนึ่งที่คู่รักที่อยู่กันมานานรู้ดีก็คือ นิสัย งานอดิเรก และเป้าหมาย ของคนรักของตัวเอง ดังนั้นเวลาที่คนรักของเรา มีแผนการใหญ่ ที่อาจจะเสี่ยงต่ออนาคต เช่น การย้ายที่ทำงาน เปลี่ยนสายงาน หรืออะไรก็ตามแต่ เราจะไม่รู้สึกหวาดกลัวหรือหวั่นไหว แต่จะทำความเข้าใจ เสนอแนะ และอยากสนับสนุนให้คนรักของเราได้ในสิ่งที่ดีที่สุด
:: พูดคุยเรื่องที่หลากหลายและเป็นธรรมชาติขึ้น ::
การพูดคุยสนทนา คือกุญแจหลักที่ช่วยให้คู่รักได้เข้าใจกันมากขึ้น คู่รักใหม่ๆ มักจะจำกัดตัวเอง ให้พูดแต่เรื่องที่คนรักของตัวเองอยากได้ยิน แต่สำหรับคู่ที่รักกันมานาน จะคุยกันด้วยเรื่องที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องส่วนตัว เรื่องฮาๆ ที่อีกฝ่ายทำ ก็จะเอามาพูดคุย แซวกันได้แบบไม่เคอะเขิน
:: ไม่เขินที่จะโชว์ส่วนที่ไม่เฟอร์เฟ็ค ของตัวเอง ::
ตอนเริ่มต้น ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม คนส่วนใหญ่ต่างพยายามจะโชว์ ส่วนที่ดีที่สุดของตัวเอง ออกมาทั้งนั้น การแต่งตัวที่ดี น้ำหอมที่ติดทนนาน รวมถึงพยายามทำตัวดีๆ ไม่ให้เขาเบื่อเราง่ายๆ แต่พอคบกันไปนานๆ เราจะไม่ต้องฝืนคีปลุคขนาดนั้นแล้ว ถ้าเหนื่อยก็บอกเหนื่อย อยากแต่งตัวสบายๆ ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง ก็ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องทำตัวสวยหล่อ ตลอดเวลา เพราะสิ่งที่คนรักของเรามอง คือตัวตนของเราไม่ใช่เปลือกนอกพวกนั้น
:: ไม่กลัวว่าเรื่องงาน จะทำลายความสัมพันธ์ของเรา ::
เรื่องงานเป็นอีกอย่างที่คู่รักมักจะเคยเถียงกัน เช่น เธอมีเวลาให้เราไม่พอเลยอ่ะ ทำไมอย่างนี้ แต่สำหรับคู่รักมาราธอน ย่อมผ่านอะไรเหล่านี้มาจนเคยชินแล้ว การยอมรับ และความเข้าอกเข้าใจ การแชร์ความสำเร็จ หรือผิดหวัง คืออีกสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ที่ร่วมกันสร้าง มีแต่จะแข็งแรงขึ้น
:: ไม่หวั่นไหวง่ายๆ กับคำถามในหัว ::
ในช่วงเเรก เราอาจจะมีคำถามเกิดขึ้นในใจ เช่น ฉันพร้อมที่จะมีคนรักแล้วจริงๆ น่ะเหรอ ฉันจะเอาอยู่แน่มั้ยกับการต้องคอยแคร์ใครสักคนมากมายขนาดนี้ ฉันยังอยากจะโลดแล่นไปกับความโสดอยู่นะ หรือ คนนี้จะใช่คนที่ฉันรอมานานจริงๆ น่ะเหรอ? แต่เมื่อเราผ่านพ้นช่วงเวลาแรกรักมาได้ อะไรหลายๆ อย่างก็จะเข้าที่เข้าทางลงตัวมากขึ้น จนเราลืมการตั้งคำถาม และความลังเลเหล่านั้นไปเลย
:: มีเถียงกันบ้าง แต่ไม่ได้เกลียดกัน ::
ไม่มีใครชอบการเถียงกับใคร เราส่วนใหญ่ ชอบให้คนคล้อยตามเรามากกว่าจะมานั่งทุ่มเถียงกัน จนนำไปสู่การทะเลาะ โดยเฉพาะคู่รักระยะแรกที่ต่างก็ต้องการการยอมรับ และความรักระหว่างกันและกัน แต่คู่รักที่รักกันมานาน จะไม่กลัวการเถียง หรือถกเรื่องราวต่างๆ ที่บางครั้งอาจเห็นไม่ตรงกัน หากทะเลาะก็จะเป็นเเค่เลเวลซอฟๆ เท่านั้น ก่อนจะพูดคุย และปรับจูนเข้าหากันได้เหมือนเดิม
:: ผ่อนคลาย และไม่อายที่จะเผลอทำตัวน่าขำใส่กัน ::
อุดมคติ และความต้องการขึ้นพื้นฐานอย่าง “การได้รับการยอมรับ” มักจะมาบดบังสายตาของคู่รัก ในช่วงเเรกๆ แต่เชื่อสิ พอเราผ่านอะไรร่วมกัน เราจะโดนละลายพฤติกรรม ด้วยช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันไปแบบแทบไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวตลกๆ พูดผิดพูดถูก หรือพฤติกรรมสุดฮาทั้งหลาย เพราะคนส่วนใหญ่จะยอมให้ คนพิเศษ เท่านั้นเห็นด้านหลุดๆ หรือความเด๋อของเรา
:: ไม่ใส่ใจ เวลาที่คนรักทำเรื่องแปลกๆ ในสายตาเรา ::
มนุษย์เรามีพฤติกรรมที่คนอื่นๆ มองว่าแปลกมากมาย นั่นก็เพราะเราถูกเลี้ยงดู และมี mind set ที่แตกต่างกัน แต่ความคุ้นชิน และการปรับตัวเข้าหากันและกัน จะช่วยให้เรามองข้ามเรื่องพวกนั้นไปได้ และคิดว่า อือ เขาก็เป็นแบบนี้เเหละนะ แต่ถ้าเป็นห่วงกันก็เตือนกันได้ รักกันมานาน เเค่นี้ทำไมจะไม่เข้าใจละเนอะ ^^
:: เปลี่ยน Look ได้ และไม่อายที่จะโชว์ให้คนรักเห็น ::
แรกๆ คู่รักใหม่อาจคิดว่าสไตล์ของเรานี่ละ ที่คนรักของเราชอบ จะไปเปลี่ยนง่ายๆ ได้ยังไง เช่น การตัดผมสั้น การโกนผมเป็นทรงสกินเฮด สำหรับคู่รักระยะยาวนั้น เรื่องพวกนี้ก็เป็นแค่เรื่องภายนอก เขาและเธอ จะเริ่มเเคร์เรื่องอื่นๆ มากกว่าเรื่องพวกนี้ เช่น ความปลอดภัยของคนรัก หรือเรื่องสุขภาพ
ตอนที่โลกหมุนให้เราทั้งคู่โคจรมาพบกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน หลายๆ อย่างก็ดูไม่สำคัญเท่ากับได้อยู่ใกล้กันไปนานๆ แบบนี้หรอกเนอะ จริงมั้ย ????