เคยสังเกตกันไหมคะ ตอนที่เรารักกับแฟนใหม่ๆ โลกทั้งใบเป็นสีชมพู หวานแหววมากเว่อร์ รักกันไม่รู้อะไรจะขนาดนั้น แต่พออยู่ด้วยกันไปนานๆ เข้าก็ชักเริ่มรู้สึกไม่เหมือนเดิม ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เราเลยชวนสาวๆ มาหาคำตอบผ่านสัญญาณทั้ง 9 ข้อ ซึ่งพวกเธออาจจะไม่เคยสังเกตเห็นกันมาก่อน โดยสัญญาณเหล่านี้แหละกำลังบอกว่าความรักของเธอกับแฟนกำลังจะหมดอายุ ต้องรีบจัดการอย่างด่วนจ้า!
1. คุยกันแต่ชอบโยงไปเรื่องคนอื่น
เป็นเรื่องที่ทำให้สุขภาพจิตแย่เลยนะคะ เวลาคุยกับแฟนแล้วเริ่มไม่พอใจกัน เคยไหมคะที่โดนโยงไปเรื่องคนอื่นที่เป็นเรื่องเก่ามากกกก แบบขุดขึ้นมาว่าทำไมสนิทกับผู้ชายคนนั้น กับแฟนเก่าทำไมยังคุยกันอยู่ เรื่องเก่าที่คุยกันจบไปแล้วเป็นชาติก็ขุดขึ้นมาทะเลาะใหม่อยู่นั่นแหละ เราพอเห็นเค้าเป็นแบบนั้นก็เอาบ้าง ขุดเรื่องเก่ามาวีน ทะเลาะกันแต่เรื่องเดิมๆ ไม่จบไม่สิ้น ในขณะที่เอาแต่พูดถึงเรื่องอดีตอยู่แบบนี้ เราน่าจะมองหาคนที่สนใจในเรื่องของปัจจุบันเพื่อที่จะก้าวไปยังอนาคตร่วมกันดีกว่าค่ะ
2. รู้สึกได้ว่าสนใจบางอย่างมากกว่า
ถ้าเรามีแฟนก็ต้องสนใจแฟนใช่ไหมคะ แต่ยิ่งนานวันถ้ายิ่งห่าง ยิ่งรู้สึกว่าเค้าดูสนใจอย่างอื่นมากกว่าเรา หรือเราสนใจอย่างอื่นมากกว่าแฟน นั่นแหละค่ะเริ่มมีสัญญาณอันตรายแล้ว ลองพูดคุยเปิดอกกันว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เราแค่ไม่ยุ่ง ต่างมีธุระกันจริงๆ หรือว่าเราเริ่มเบื่อกันแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ลองปรับตัวเข้าหากันหน่อยเถอะค่ะ อย่าเพิ่งตัดสินว่ามันจะจบลงแค่นี้ แต่ถ้าลองปรับตัวเข้าหาเค้าแล้วไม่เวิร์คก็แสดงว่ารักครั้งนี้อาจจะถึงทางตันแล้วก็ได้ค่ะ
3. แรงดึงดูดหายไป
เป็นธรรมดาว่าเวลาอยู่กับคนที่เรารักก็จะเกิดความรู้สึกสปาร์ค ไฟช็อต เวลาได้สบตาหรือเวลาได้สัมผัสกัน แต่ถ้าวันหนึ่งมันหายไปแล้วล่ะ? เวลากอดกันก็รู้สึกไม่อบอุ่นเหมือนเคย เวลานอนด้วยกันก็รู้สึกอึดอัดไม่อยากมีเค้าอยู่ข้างๆ ทั้งๆ ที่การนอนเป็นการผ่อนคลายแท้ๆ และสัญญาณอันตรายที่สุดคือรู้สึกว่าอยู่กับคนอื่นแล้วสบายใจกว่าเวลาอยู่กับแฟนเนี่ยแหละ แบบนี้ต้องรีบจัดการแก้กันด่วนเลยค่ะ
4. รู้สึกเหงาแม้จะอยู่ด้วยกัน
เคยอยู่กับใครสักคนแต่ก็รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวไหมคะ? คู่รักที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันอาจจะรับรู้ถึงความรู้สึกตรงนี้ช้าหน่อย แต่สำหรับคนที่อยู่ด้วยกันแล้วแต่ดันรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว อยู่ลำพัง หว่าเว้~ แสดงว่าความสัมพันธ์เริ่มมีปัญหาแล้วล่ะ แต่ยังไม่ให้หักดิบเลิกกันไปเลยนะคะ ลองพยายามคุยกันก่อน หาเรื่องที่น่าสนใจทำร่วมกัน ถ้าพยายามแล้วแต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้งอาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่ได้แย่อะไรนัก (เพราะยังไงอยู่สองคนก็เหมือนอยู่คนเดียวอยู่ดี)
5. หาเรื่องชวนทะเลาะ
เป็นปัญหาจุกจิกที่เกิดจากเรื่องเล็กๆ แต่ค่อยๆ สะสมจนกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยแหละซิส เรื่องอาจจะเริ่มจากเค้าบ่นว่าเราไม่ยอมพับผ้าห่ม หรือไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมที่เราฉีด เป็นเรื่องเล็กที่เริ่มลามไปถึงเรื่องที่เราคุยกับเพื่อนผู้ชาย (ที่เป็นเพื่อนของจริง) แล้วก็ชวนทะเลาะเรื่องเหล่านี้ได้ทุกวัน ประโยคคลาสสิกก็จะเป็น “ก็เธอไม่เหมือนเดิม!” เราจะเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ ที่ต้องคอยรับมือกับอารมณ์ของเค้าทุกวัน และถ้าวันหนึ่งรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วก็ลองถอยออกมาสักก้าวเพื่อให้ต่างฝ่ายต่างทบทวนดูค่ะว่าเรายังกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม รักของเราหมดอายุแล้วหรือยัง
6. ไม่ใส่ใจคนที่เรารัก
ถามคนส่วนใหญ่ว่าคนที่รักคือใคร อันดับต้นๆ เนี่ยต้องมีพ่อแม่ ครอบครัวแน่นอน แฟนก็มีแหละแต่ว่าคนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับพ่อแม่มากกว่านะ ในเมื่อเรารักพ่อแม่เรา และรักพ่อแม่ของแฟนเหมือนพ่อแม่ของเราอีกคน แต่แฟนกลับไม่คิดแบบนั้น เค้าไม่ได้ใส่ใจพ่อแม่เรา ก็เอ่อ?มันก็พอทำใจได้นิดหน่อย แต่ถ้ามากถึงขนาดต่อว่าพ่อแม่เรา แสดงท่าทีไม่ดีต่อท่าน คิดว่าควรจะคบกับคนแบบนี้ต่อไปเหรอคะ? ก็ลองไปคิดดูค่ะ
7. มองอนาคตคนละทาง
เอาจริงๆ อย่าว่าแต่อนาคตเลย แค่ปัจจุบันก็ไม่ได้มองเหมือนกันแล้วก็น่าคิดแล้วแหละว่าคนแบบนี้เหมาะกับเราจริงหรือเปล่า ถ้าเธอมีแฟนที่วางแผนอนาคตไว้ว่าจะไปเที่ยวรอบโลก เปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ แต่เธอกลับคิดว่าอยากจะมีครอบครัวที่มั่นคงแล้ว คิดสวนทางกันแบบนี้ ถ้าลองคุยกันแล้วแต่หาทางออกสำหรับเรื่องนี้ไม่ได้ก็ลองถอยออกมาดูค่ะ อาจจะสบายใจกว่า
8. ให้ความสำคัญไม่เท่ากัน
มีแฟนก็ต้องรักเค้าใช่ไหมคะ แต่ถ้ารักเค้า ให้ความสำคัญกับเค้ามาก มีอะไรก็คิดถึงเค้าก่อนแสมอแต่เค้าไม่ได้คิดแบบนั้นก็แสดงว่าความรู้สึกเริ่มสวนทางกันแล้วแหละ ในขณะที่เรายกให้เค้าเป็นที่หนึ่งแต่เค้ากลับจัดเราอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ (หรืออาจจะไม่ได้อยู่ในอันดับเลยด้วยซ้ำ) แบบนี้ก็เห็นกันชัดแล้วนะคะว่าการให้ความสำคัญของเราไม่เท่ากัน นี่เป็นสัญญาณอันตรายที่ทำให้สุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ต้องยุติลง
9. ไม่รู้สึกผ่อนคลายเวลาอยู่ด้วยกัน
เป็นเรื่องธรรมชาติที่เวลาเราอยู่กับคนที่รักจะผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเอง ยิ้มและหัวเราะออกมาได้ง่ายๆ แต่ถ้าวันหนึ่งไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ วันที่สัญญาณอันตรายเริ่มชัด ถ้าความสัมพันธ์เป็นพิษ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำตลอดเวลา สิ่งที่จะเลือกทำก็มีแค่สองอย่างคือจะยอมว่ายกลับขึ้นฝั่งหรือยอมจมน้ำไป ก็ขอให้เธอเลือกทางที่ดีต่อตัวเองที่สุดค่ะ