ก่อนจะมีความรักสักครั้งหนึ่งนั้น คุณอาจจะเคยวาดภาพความรักว่าจะต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้แต่อยากให้มาลองเข้าใจใหม่ดีๆ แล้วจะรู้ว่า การมีความรักนั้นจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง บางสิ่งเคยคิดไว้อาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดอยู่ก็ได้ ดังนั้นมารู้จักกันความรักบนพื้นฐานของความจริงก่อนที่จะตกลงคบหากับใครดูกันเถอค่ะ เผื่อจะได้เข้าใจและรับมือได้ในอนาคต
1.ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย ผู้ชายในฝันก็เช่นกัน
สาวๆ อย่างเราชอบเพ้อฝันถึงความรักที่แสนโรแมนติกกันมากๆ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วนั้น ชีวิตของคนธรรมดาที่ไม่สมบูรณ์แบบ ก็คือชีวิตที่แสนจะธรรมดานี่แหละ การที่จะหวังมันแฟนตาซีมีเรื่องเซอร์ไพรส์เนี่ย มันก็ออกจะมากเกินไปหน่อยนะ แถมถ้าแฟนของคุณไม่ใช่คนหวานๆ หรือโรแมนติกด้วย คุณเองก็มีแต่จะผิดหวังหรือชวนให้ทะเลาะกันเสียเปล่าๆ สาระสำคัญของความรักเองก็ไม่ได้อยู่ที่ความโรแมนติกด้วย ก็ทำใจเสียเถอะ…ถ้าหากว่าความรักของคุณไม่มีสิ่งนี้ แต่ถ้ามีมันก็คือกำไรเท่านั้นเอง
2. ความรักไม่ได้มีแต่ความสุขนะ
คนรักกันถูกสร้างมาให้อยู่ร่วมกันทั้งตอนที่มีความสุข รวมถึงเวลาที่มีความทุกข์ด้วย ยิ่งตอนทุกข์ตอนลำบากนี่แหละ ที่ต้องคอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยกันเลยล่ะ คนเราจะต่อสู้กับความทุกข์ระทมได้ ก็เพราะมีคนคอยช่วยเหลือ และสามรถยืนหยัดต่อสู้กับสิ่งต่างๆ ได้ ก็เพราะมีกำลังใจที่ดีจากคนรักนี่แหละ ถ้าเราหวังแค่ความสุขจากกันและกัน เราอาจจะไม่ได้รักกันจริงๆ ก็ได้นะ เพราะสำหรับคนที่เรารักจริงๆ แล้ว เราจะไม่สามารถปล่อยให้เขาเผชิญกับความทุกข์ได้เพียงลำพังเลยจริงๆ
3. ความรักไม่ใช่การละทิ้งฝันของตัวเอง
ต่อให้มีความรักอย่างไรเราก็ยังต้องใช้ชีวิตตามปกติต่อไปอยู่ดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ลองคิดดูว่าถ้าหากว่าเราต้องทุ่มเทและเสียสละเพื่อความรักทุกอย่าง แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งที่ความรักมาถึงจุดจบแล้วนั้น ชีวิตคุณอาจเสียศูนย์ไปเลยก็ได้ เพราะคุณได้เอาอนาคตของตัวเองมาแลกกับความรักไปจนหมดแล้วนั่นเอง ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือใช้ชีวิตของคุณก่อน แล้วค่อยคิดถึงเรื่องความรักเถอะนะ
4. ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา
การรักกันไม่ได้หมายถึงต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เพราะเงื่อนไขในชีวิตของคนเราต่างกัน บางทีเราอาจจำเป็นต้องอยู่ไกลกัน แต่ก็ยังเชื่อมใจด้วยการติดต่อสื่อสารกันได้ หรือบางทีต่างฝ่ายต่างก็มีภารกิจมากมายในชีวิตที่จะต้องทำ ทำให้แม้ว่าจะอยู่ใกล้กันมากแต่ยังยากที่จะมาพบเจอ ถ้ามีความรักต่อกันที่หนักแน่นพอ ต่อให้ไม่ได้อยู่ข้างๆ กัน เราก็จะไม่ขาดความรักและกำลังใจให้กันไปได้ง่ายๆ หรอกนะ
5. ผิดใจกันได้แต่ควรให้อภัยกันเสมอ
ในยามที่เป็นคนรักกันแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความคิดเห็นตรงกันไปหมดเสียทุกอย่าง หรือชอบพออะไรแบบเดียวกันหมดสักหน่อย อาจจะมีสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้ขัดใจไม่ชอบใจไปบ้าง แต่ก็ควรมีการพูดคุย ปรับความเข้าใจและให้อภัยกันได้เสมอ บางทีการทะเลาะกันอาจทำให้เรารู้จักและเข้าใจกันมากขึ้น ซึ่งน่าจะดีกว่าการไม่ได้ทะเลาะ แต่ไม่มีการปรับความเข้ากันเลยก็ได้ ที่อาจจะสะสมความไม่พอใจจะและระเบิดขึ้นมาได้จนรักต้องพังในสักวันหนึ่ง
6. อย่าปล่อยให้ความรักกลายเป็นความเศร้า หรือความทุกข์ระทม
ความรักไม่ควรจะเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อย เพราะชีวิตของคนเราก็ต้องประสบพบเจอกับเรื่องยากๆ มามากพอแล้ว หากว่าต้องมาเจอความรักที่ทำให้เหนื่อยใจไปอีก อาจจะยิ่งทำให้ชีวิตของบางคนพังไปได้เลยนะ ลองเช็คดูบ้างว่าความรักที่มีอยู่ตอนนี้ยังดีพอให้คุณรักษาเอาไว้หรือไม่ ถ้ามันแย่จนเกินไปแล้ว การปล่อยมันไปแล้วกลับมามอบความรักที่ดีให้กับตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะ แต่เป็นเรื่องที่ควรทำเลยล่ะ
7. รักไม่ใช่ความเพอร์เฟคและความนิรันดร์
ไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคตได้ทั้งนั้น ว่าความรักของเราจะไปในทิศทางไหน วันนี้รักกันดี แต่เดือนหน้าหรือปีหน้ามันอาจจะไม่เป็นเหมือนเดิมก็ได้ ความรักยาวนานไม่ได้เกิดจากการที่เราทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบเสมอไป เพราะความรักของคนสองคนประกอบด้วยอะไรที่มีมากกว่านั้น บางครั้งเมื่อจุดเปลี่ยนมาถึงเราก็จะต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ และรักในปัจจุบันก็อาจจะไม่ใช่รักครั้งสุดท้ายในชีวิตของเราเสมอไป อย่าไปทำใจยึดติดจนมากเกิน แต่ขอให้ทำความรักในปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ
เมื่อลองคิดตรึกตรองให้ดีแล้ว ก็หวังว่าจะทำให้สาวเข้าใจและพร้อมที่จะมีความรักอีกครั้งหนึ่งได้อย่างมั่นคงนะคะ ความรักไม่ใช่เรื่องที่จะใช้ใจรักเพียงอย่างเดียว การใช้เหตุและผลด้วยจะยิ่งช่วยให้ความรักเข้มแข็งขึ้นได้ ความรักเหมือนการขับรถนั่นแหละค่ะ เราต้องช่วยกันประคองไปให้ถึงจุดหมาย แม้ว่าหนทางที่ขับผ่านไปจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน ก็จะดูแลและไม่ทอดทิ้งกันไปนั่นเองค่ะ
พร้อมที่จะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่หรือยังคะ?